ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือ PTTEP โดย “นายพงศธร ทวีสิน”ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยว่า การลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้น (Share Purchase Agreement : SPA) เพื่อเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดใน “บริษัท Partex Holding B.V.” จากมูลนิธิ Calouste Gulbenkian Foundation เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2562 นั้น
โดยบริษัทขอแจ้งว่าวานนี้ (4 พ.ย.62) การดำเนินการตามเงื่อนไขต่างๆที่ระบุไว้ ในสัญญาฯดังกล่าวเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว ส่งผลให้บริษัทมีปริมาณการขายปิโตรเลียมเพิ่มขึ้นประมาณ 16,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน
ก่อนหน้านี้ PTTEP เร่งหน้าแผนลงทุน 5 ปี (2562-2566) เพื่อเพิ่มเป้าหมายปริมาณการขายปิโตรเลียม จากการเข้าซื้อกิจการ และการได้รับสิทธิการดำเนินงานในแปลงสัมปทานต่าง ๆ โดยครึ่งแรกของปี 2562 PTTEP ประสบความสำเร็จในการดำเนินงานตามแผนกลยุทธ์เชิงรุกในหลาย ๆ ด้าน ทั้งการลงนามในสัญญาแบ่งปันผลผลิตแปลง G1/61 (แหล่งเอราวัณ) และ G2/61 (แหล่งบงกช) ในอ่าวไทย
อีกทั้งชนะการประมูลและได้รับสิทธิในแปลงสำรวจปิโตรเลียมทั้งในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และมาเลเซีย การเข้าซื้อกิจการของ “บริษัท เมอร์ฟี่ ออยล์ คอร์ปอเรชั่น” ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งเสร็จสิ้นไปเมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา รวมทั้ง การเข้าซื้อสัดส่วนการถือหุ้น 33.8 % ใน “บริษัท อพิโก แอลแอลซี” จาก บริษัท เทเท็กซ์ ไทยแลนด์
ดังนั้น PTTEP จึงได้ทบทวนแผนการลงทุน 5 ปี (2562-2566) ด้วยการปรับประมาณการรายจ่ายเพิ่มขึ้นเป็น 21,354 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 685,143 ล้านบาท) จากเดิมที่เคยประมาณการไว้ที่ 16,105 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 525,055 ล้านบาท) ดังตาราง++++
www.mitihoon.com