มิติหุ้น-ดร.ฤทธี กิจพิพิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN ผู้นำด้านธุรกิจพลังงาน พลังงานหมุนเวียน และยานยนต์ที่ใช้พลังงานทางเลือก เปิดเผยรายได้บริษัทในไตรมาส 3/2562 สำหรับงวด 9 เดือนแรกของปี อยู่ที่ 2,350.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปี 2561 กว่า 313.5 ล้านบาท หรือคิดเป็น 15.4% ด้านกำไรสุทธิจากการดำเนินงานสำหรับงวด 9 เดือนแรกเท่ากับ 137 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.8 % โดยมีปัจจัยหลักมาจากการซ่อมบำรุงรักษารถโดยสารปรับอากาศ NGV 489 คัน ที่ส่งมอบให้ ขสมก เสร็จสิ้นแล้ว
ซึ่งเป็นรายได้ต่อเนื่องมาจากไตรมาสที่แล้ว ส่วนในด้านธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับก๊าซธรรมชาติ ที่มีการใช้ก๊าซธรรมชาติในประเทศไทยเปลี่ยนแปลงไป ประกอบกับนโยบายภาครัฐที่สนับสนุนการใช้น้ำมันดีเซล แต่บริษัทยังคงมีรายได้ในกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันเมื่อเทียบกับปีก่อนถึง 1.4% จากการที่ลูกค้า iCNG มีความต้องการเพิ่มกำลังการผลิต สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงประสิทธิภาพในการขยายกิจการเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย รวมถึงการเปิดสถานีบริการน้ำมันใหม่ 2 แห่ง นอกจากนี้ยังมีการรับรู้รายได้จากงานก่อสร้างสถานีและงานทดสอบรถขนก๊าซธรรมชาติ และธุรกิจในอนาคตที่เตรียมลุยก๊าซ LNG อีกด้วย
ดร.ฤทธี กล่าวเสริมว่า “บริษัทมีแผนในการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยได้มีการปรับตัวและพัฒนาธุรกิจมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแบ่งโครงสร้างธุรกิจอย่างชัดเจนในรูปแบบ 3+1 นั่นคือ ธุรกิจก๊าซธรรมชาติ, ธุรกิจยานยนต์, ธุรกิจพลังงานทดแทน และ ธุรกิจโลจิสติกส์ ในส่วนของธุรกิจก๊าซธรรมชาติที่ถึงแม้ในปีนี้บริษัทจะเจออุปสรรคจากสถานการณ์ก๊าซธรรมชาติที่มีการปรับตัว แต่บริษัทยังคงมีฐานลูกค้าที่มั่นคงจากธุรกิจ iCNG และการปรับตัวสู่ธุรกิจ iLNG ในอนาคต
นอกจากนี้ในธุรกิจยานยนต์ที่ได้มีการเปิดตัวบริษัทลูกอย่าง แพนเทอรา มอเตอร์ส เพื่อรองรับธุรกิจยานยนต์แบบครบวงจรและตอบสนองนโยบายภาครัฐที่ที่ต้องการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของการเดินทางในรถโดยสารสาธารณะ ที่มีการส่งเสริมให้เปลี่ยนมาใช้รถโดยสารขนาดเล็ก หรือ รถแบบมินิบัส ทดแทนการใช้รถตู้โดยสารที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 10 ปี ขึ้นไป ซึ่งได้จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวบริษัทอย่างเป็นทางการเมื่อเร็วๆนี้ พร้อมแนะนำรถโดยสารขนาดเล็กหรือรถมินิบัส ยี่ห้อ Bonluck (BLK) รุ่น Panthera พร้อมตั้งเป้ายอดขายไว้ 140 คันต่อปี ประมาณการรายได้ปีละ 220 ล้านบาท
ส่วนในด้านธุรกิจพลังงานทางเลือกที่ได้จับมือกับ 2 พันธมิตรใหญ่ “ไทย แอดวาซ์ โซลาร์ ” และ “พร้อม พาวเวอร์” ร่วมลงทุนในการซื้อขายไฟฟ้าภาคเอกชน (Private PPA) และสัญญาเช่าโครงการโซลาร์รูฟท็อป ภายใต้ “บริษัท สแกน แอดวานซ์ พาวเวอร์ จำกัด” ซึ่งได้มีการลงนามสัญญากับผู้ประกอบการไปแล้วกว่า 4 เมกะวัตต์ โดยจะสามารถติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปให้แล้วเสร็จและรับรู้รายได้ในไตรมาสแรกของปี 2563 นอกจากนี้ยังมีผู้ประกอบการที่ให้ความสนใจในโครงการนี้อีกจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจาซื้อขาย คาดว่าปลายปี 2562 นี้จะมียอดการติดตั้งถึง 10 MW พร้อมตั้งเป้าถึงปี 2565 บริษัทจะมีกำลังผลิตไฟฟ้าและดำเนินการเชิงพาณิชย์ถึง 110 MW คิดเป็นมูลค่าลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท โดยปีนี้จะได้เห็นการเติบโตของธุรกิจในเครือ SCN ทุกๆด้าน เพราะบริษัทไม่เคยหยุดยั้งในการพัฒนาและมองหาโอกาสในการลงทุน และให้เชื่อมั่นถแผนงานของบริษัทนับจากนี้จะสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนอย่างแน่นอน”