มิติหุ้น – “ออริจิ้น” โชว์ผลประกอบการไตรมาส 3/2562 แบ็คล็อกแกร่ง 4 หมื่นล้าน Q4 ทยอยโอนต่อเนื่อง และโครงการกว่า 6,000 ล้านยิ้มรับอานิสงส์จากมาตรการรัฐ อัดแคมเปญแรงส่งท้ายปี หนุนยอดขายทะลุเป้า 28,000 ล้าน หลังปัจจุบันโกยยอดแล้วกว่า 90%
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2562 ของบริษัท ยังคงอยู่ในระดับที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของยอดขายพรีเซลในไตรมาส 3 อยู่ที่ 11,068 ล้านบาท และยอดขายพรีเซลสะสมในช่วง 9 เดือนมียอดรวมอยู่ที่ 24,028 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ในส่วนของรายได้รวมอยู่ที่ 3,628 ล้านบาท ทำให้ภาพรวมบริษัทช่วง 9 เดือนแรกของปี มีรายได้รวมที่ 10,418 ล้านบาท ขณะเดียวกัน กำไรสุทธิงวดไตรมาส 3/2562 อยู่ที่ 687ล้านบาท ส่งผลให้กำไรสุทธิ 9 เดือนแรกของปีอยู่ที่ 2,145 ล้านบาท โดยคิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นที่ร้อยละ 43.1 และ อัตรากำไรสุทธิที่ร้อยละ 20.6
ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้บริษัทมีรายได้และกำไรในระดับดังกล่าวได้ เนื่องจากโครงการใหม่ๆ ยังคงก่อสร้างแล้วเสร็จและทยอยโอนได้ตามแผนงาน และบริษัทยังคงความสามารถในการทำกำไรขั้นต้นได้อย่างยอดเยี่ยม
“เรามียอดรอรับรู้รายได้ ณ สิ้นไตรมาส 3/2562 สูงถึงกว่า 4 หมื่นล้าน โดยในช่วงไตรมาส 4/2562 มีคอนโดมิเนียมหลายโครงการที่พร้อมจะรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง อาทิ ไนท์บริดจ์ ไพรม์ สาทร, เคนซิงตัน สุขุมวิท–เทพารักษ์, ไนท์บริดจ์ พหลโยธิน อินเตอร์เชนจ์, เคนซิงตัน พหลโยธิน 63 ขณะเดียวกัน โครงการบ้านจัดสรรแบรนด์บริทาเนียหลายโครงการทั้ง บริทาเนียวงแหวน–หทัยราษฎร์, บริทาเนียบางนา กม.12, และบริทาเนียเมกะทาวน์ บางนา รวมถึงโครงการใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวอย่าง บริทาเนียบางนา กม.42 และบริทาเนียบางนา–สุวรรณภูมิ ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดี และพร้อมทยอยโอนอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 4 เช่นกัน” นายพีระพงศ์ กล่าว
นอกจากนี้ ภาพรวมตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่ภาครัฐออกมาตรการช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อและโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์หลายมาตรการตลอดทั้งปี เช่น มาตรการลดค่าธรรมเนียมการจดจำนองและค่าธรรมเนียมการโอนสำหรับที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 3 ล้านที่เพิ่งมีผลบังคับใช้ทั่วประเทศเมื่อ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา และมาตรการลดหย่อนภาษีสูงสุด 2 แสนบาท สำหรับการซื้อที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท โดยออริจิ้น มีโครงการที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จพร้อมอยู่ที่จะได้รับอานิสงส์จาก 2 มาตรการดังกล่าว รวมกว่า 6,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทมั่นใจ ยังคงทำได้ตามแผน
นายพีระพงศ์ กล่าวอีกว่า ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2562 บริษัทมีโครงการเปิดใหม่ทั้งสิ้น 8 โครงการ แบ่งเป็นคอนโดมิเนียมแบรนด์ดิ ออริจิ้น และนอตติ้ง ฮิลล์ ในโครงการสมาร์ท ซิตี้ โซนอีอีซี รวม 3 โครงการ และโครงการบ้านจัดสรรแบรนด์บริทาเนีย 5 โครงการ ซึ่งยังคงเดินหน้าตามแผน
ขณะเดียวกัน บริษัทได้ออกแคมเปญฉลองครบรอบก่อตั้ง 10 ปี “โปรแรงแซงมาตรการรัฐ” กับโครงการคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่แนวรถไฟฟ้าและอีอีซี 12 โครงการ มอบส่วนลดสุดพิเศษให้แก่ผู้บริโภคสูงสุดถึง 2 ล้านบาท พร้อมสิทธิพิเศษอีกมากมาย อาทิ *ฟรี! ค่าส่วนกลาง 5 ปี ค่าจดจำนอง ค่าโอน 1% ค่ากองทุนอาคารชุด ค่าประกันมิเตอร์น้ำ, มิเตอร์ไฟ และพิเศษสุด! รับดอกเบี้ย 2.50% 3 ปีแรก* สำหรับผู้ขอสินเชื่อกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ผ่อนต่ำ เริ่มต้นเพียงล้านละ 3,300 บาท/เดือน นาน 40 ปี* รวมถึงมีจัดแคมเปญร่วมกับ Lazada จองคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ เชื่อว่าจะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยกระตุ้นยอดขายรวม และรายได้ทั้งปีของบริษัทให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดยปัจจุบันมียอดขายสะสมแล้วกว่า 25,000 ล้านบาท หรือกว่า 90% ของเป้าหมายยอดขายทั้งปี และโครงการใหม่แบรนด์พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin) และดิ ออริจิ้น (The Origin) ได้รับการตอบรับที่ดี มียอดขายเฉลี่ย (Take up rate) กว่า 90%