STEC ราคารูดกูรูแนะ “หลีกเลี่ยงลงทุน” เอี่ยวเงินสินบน 20 ลบ.คดีโรงไฟฟ้าขนอม

362

มิติหุ้น-จากกรณีราคา STEC หรือ บมจ.ปรับตัวลงแรงปิดตลาดเมื่อวานนี้ (14/11/2562) ที่ 14.40 บ./หุ้น ลดลง 3.50 จุด ลดลง 19.55 % ซึ่งถือว่าปรับตัวลงต่ำสุดในรอบ 4 ปี 9 เดือนนั้นภายหลัง ป.ปช.ชี้มูลความผิดเจ้าหน้าที่รัฐที่ร่วมรับเงินสินบน 20 ล้านบาทโดยพบว่ามีผู้บริหาร STEC มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยนั้น ด้านบทวิเคราะห์ บล.เอเชีย พลัสระบุว่า ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดเจ้าหน้าที่รัฐที่ร่วมรับเงินสินบน 20 ล้านบาท จากบริษัทสัญชาติญี่ปุ่น รวมถึง STEC และผู้บริหารระดับสูงของ STEC ในฐานะผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐให้กระทำความผิด กรณีใช้เรือลำเลียงชิ้นส่วนอุปกรณ์ก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่ขนาดใหญ่เกินกำหนดเพื่อก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนอม เหตุเกิดในปี 2558

ขั้นตอนต่อไปคือการส่งฟ้องศาลดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้อง เป็น Sentiment เชิงลบต่อ STEC ทั้งเรื่องคุณสมบัติของผู้บริหาร บจ. และโอกาสถูกขึ้น Black list การประมูลงานภาครัฐในอนาคตหรือไม่ แต่ไม่กระทบผลดำเนินงานปี 62-64 ที่มี Backlog รองรับเพียงพอแล้ว แนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนในระยะสั้น จนกว่าจะมีความชัดเจนออกมามากกว่านี้

STEC แจงกรณี ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดคดีติดสินบน

ล่าสุด STEC แจงออกมาชี้แจงโดยนายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ได้ชี้มูลความผิด บริษัทและผู้บริหารระดับสูงบางท่านของบริษัทฯ โดยกล่าวหาว่าบริษัทฯ ได้ให้ความช่วยเหลือสนับสนุนในการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อแลกกับการอนุญาตให้เรือลำเลียงชิ้นส่วนอุปกรณ์ก่อสร้างโรงไฟฟ้าจากต่างประเทศเข้าเทียบท่าเทียบเรือชั่วคราวนั้น

บริษัทฯ ขอยืนยันว่า บริษัทฯ มีนโยบายดำเนินธุรกิจตามหลักธรรมาภิบาล ไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องหรือสนับสนุนการทุจริตคอร์รัปชั่นในทุกรูปแบบและมีมาตรการป้องกันปราบปรามการทุจริตภายในองค์กรอย่างเข้มงวดตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีจึงขอให้ผู้ลงทุนทุกท่านมั่นใจ การดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ดังกล่าว และบริษัทฯมั่นใจว่าสามารถชี้แจงแสดงหลักฐานโต้แย้งการถูกกล่าวหาข้างต้นได้   โดยบริษัทฯขอยืนยันที่จะต่อสู้จนถึงที่สุด

ในการนี้ ขอเรียนผู้รับข่าวสารทุกท่าน ให้ทราบว่า การชี้มูลความผิดของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เป็นเพียงการสืบสวนความในขั้นต้นเท่านั้น ยังไม่ถือเป็นที่สุด  จึงไม่อาจถือได้ว่าบริษัทฯ เป็นผู้มีส่วนสนับสนุนในการกระทำผิดใดๆทั้งสิ้น และตราบเท่าที่ยังไม่มีคำพิพากษาของศาลจนถึงที่สุด บริษัทฯก็ยังคงมีสถานะเป็นผู้บริสุทธิ์ หากผู้ใดนำความไปบิดเบือนว่าบริษัทฯ กระทำผิดความผิดหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตใดๆ ก็ตามบริษัทฯก็มีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการทางกฎหมายแก่บุคคลที่จงใจทำให้บริษัทฯได้รับความเสียหายในกรณีนี้ จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและเผยแพร่ต่อประชาชนและผู้ลงทุนต่อไป

www.mitihoon.com