APCO  “นวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัด” ดันยอดขาย LIV โต 30%

80

มิติหุ้น-APCO เผยแพร่ นวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัด ดันยอดขาย LIV โต 30% รักษาอัตรากำไรขั้นต้น 80% ทิศทางธุรกิจ Q4/62 รุกเจรจานักธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ เร่งขยายฐานผู้บริโภค ขณะที่   ผลประกอบการงวด 9 เดือน รายได้ 208.58 ล้านบาท กำไร 41.83 ล้านบาท

ศ.ดร. พิเชษฐ์  วิริยะจิตรา  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ APCO เจ้าของธุรกิจนวัตกรรมธรรมชาติเพื่อสุขภาพและความงามด้วยการวิจัย พัฒนา ผลิตและจำหน่ายครบวงจร เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพและความงามในประเทศปีนี้อยู่ในเกณฑ์ไม่ค่อยดีนัก กำลังซื้อของผู้บริโภคค่อนข้างทรงตัว

อย่างไรก็ตาม APCO ยังสามารถรักษาฐานลูกค้าเดิมจากการเผยแพร่ นวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัด ผ่านช่องทาง Social Media อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ LIV ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทมียอดขายเติบโต 30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตลอดจนสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 80%

“สำหรับทิศทางธุรกิจในช่วงไตรมาส 4/62 บริษัทมุ่งเน้นการขยายฐานกลุ่มผู้ใช้     ผลิตภัณฑ์ LIV และ Operation BIM เพิ่มเติม ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาร่วมมือกับนักธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ เพื่อผลักดันให้มีการใช้นวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัด แก้ไขปัญหาและเสริมสร้างสุขภาพที่ดีให้กับผู้บริโภคในวงกว้าง คาดว่าจะเห็นความชัดเจนและเริ่มดำเนินการได้ในช่วงต้นปี 63 เป็นต้นไป บริษัทเชื่อมั่นว่าหากการร่วมมือครั้งนี้ประสบความสำเร็จ จะส่งให้ผลประกอบการกลับมาโดดเด่นได้ แม้ภาวะเศรษฐกิจยังชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง” ศ.ดร. พิเชษฐ์  กล่าว

ทั้งนี้ ผลประกอบการงวด เดือนปี 2562 บริษัทมีรายได้รวม 208.58 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 273.21 ล้านบาท จำนวน 64.63 ล้านบาท หรือลดลง 23.65% และมีกำไรสุทธิ 41.83 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 68.93 ล้านบาท จำนวน 27.10 ล้านบาท หรือลดลง 39.32%

ส่วนผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2562 บริษัทมีรายได้รวม 64.87 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 94.59 ล้านบาท จำนวน 29.72 ล้านบาท หรือลดลง 31.42% และมีกำไรสุทธิ 14.87 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 25.09 ล้านบาท จำนวน 10.22 ล้านบาท หรือลดลง 40.73% สาเหตุที่ผลประกอบการของบริษัทชะลอตัวลง มาจากยอดขายของผลิตภัณฑ์บางชนิดลดลง เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจยังคงมีความไม่แน่นอน ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค