ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล.เคทีบี(ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ บมจ.อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป หรือ EPG ว่า ฝ่ายวิเคราะห์ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายที่ 9.40 บาท อิง 2020E PER ที่ 24 เท่า (5-yr average PER) หลังจากที่ EPG ประกาศกำไรสุทธิไตรมาส2/62 (ก.ค.-ก.ย.19) ที่ 327 ล้านบาท (+25% YoY, +52% QoQ) ดีกว่าที่ consensus และฝ่ายวิจัยคาด +10% และ +15% ตามลำดับ จากรายได้ทุกธุรกิจที่กลับมาเติบโตได้ดี โดยเฉพาะธุรกิจบรรจุภัณฑ์ EPP ที่ดีขึ้นมากสุดและต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง
โดยฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการกำไรสุทธิในงวดปี 2563 (เม.ย.19-มี.ค.63) ที่ 1.1 พันล้านบาท +21% YoY โดยกำไรสุทธิ 1H20 (เม.ย.-ก.ย.62) อยู่ที่ 542 ล้านบาท -4% YoY คิดเป็น 49% จากทั้งปี ส่วนกำไรสุทธิ 2H20 (ต.ค.62-มี.ค.63) จะยังเติบโตสูงถึง +62% YoY จากการฟื้นตัวของทุกกลุ่มธุรกิจ และจะยังคงได้ผลบวกจากต้นทุนวัตถุดิบที่อยู่ในระดับต่ำ
ทั้งนี้ ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น +13% และ +32% ในช่วง 3 เดือน และ 6 เดือนที่ผ่านมาตามลำดับ สะท้อนกำไรสุทธิที่ได้ผ่านจุดต่ำสุดและเริ่มกลับมาฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งปีแรกของปี63 (เม.ย.-ก.ย.62) ทั้งนี้ มองว่าราคาหุ้นจะยังคงได้ปัจจัยหนุนต่อจากกำไรสุทธิในงวดครึ่งปีหลังปี63 (ต.ค.19-มี.ค.63) ที่จะเติบโตได้โดดเด่น และคาดว่ากำไรสุทธิจะกลับเป็นขาขึ้นต่อเนื่องในปี 2563-2564 ปัจจุบัน EPG เทรดที่ PER ปี 2563-2564 ที่ 18.9 เท่า และ 16.0 เท่า ตามลำดับ ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PER ในอดีตที่ 24 เท่า
www.mitihoon.com