ICHI โชว์กำไรQ3/62 โตทะลุ 206%

372

มิติหุ้ร-ICHI โตต่อเนื่องประกาศงบ Q3/62 ทำกำไรสุทธิ 72.6 ล้านบาท โตแรง 206% พร้อมอวดความสำเร็จ อิชิตัน อินโดนีเซีย บุ๊คกำไรเป็นไตรมาสแรกขณะที่ ชาชิซึโอกะ ยืนหนึ่งตลาดชาเขียวพรีเมี่ยม ครองมาร์เก็ตแชร์เกือบ 31% ตอกย้ำคุณค่าของผลิตภัณฑ์ และการยอมรับจากผู้บริโภค ส่วนภาพรวมรายได้ทำไว้ที่ 1,135.4 ล้านบาท ลดลงราว 8% รับยอดส่งออกลด จากผลกระทบค่าเงินบาทแข็งตัวและสภาพเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าชะลอตัว แต่ยอดขายในประเทศโตประทับใจ ส่อแววกำไรทั้งปีทำได้ดีกว่าเป้าหมายที่วางไว้

นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตันกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI เปิดเผยถึง ผลประกอบการงวดไตรมาส 3/2562 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 72.6 ล้านบาท คิดเป็น 206 % เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 23.7 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักมาจาก การบริหารจัดการผลิตภัณฑ์อย่างมีประสิทธิภาพ และการบริหารการผลิตที่ดี มีอัตราการใช้กําลังการผลิต (Utilization Rate) ในระดับสูงขึ้น   ส่งผลต่ออัตรากำไรดีขึ้น ประกอบกับการบริหารช่องทางการจำหน่าย และวางแผนกิจกรรมการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ เปิดตัวแคมเปญที่แตกต่างเพื่อสร้างการรับรู้ในแบรนด์ชาเขียวของอิชิตันได้ครบทุกกลุ่มเป้าหมาย

ด้านบริษัทร่วม อิชิตัน อินโดนีเซีย ประสบความสำเร็จในการขยายตลาด เริ่มรับรู้กำไรในไตรมาสนี้เป็นไตรมาสแรก ด้วยส่วนแบ่งกำไรที่ 1.2 ล้านบาท เทียบกับงวดครึ่งปีแรกที่ผ่านมา เริ่มเห็นสัญญาณที่ดี  เป็นผลจากการสร้างแบรนด์อิชิตัน ในอินโดนิเซียเริ่มส่งผล และประสบความสำเร็จกับผลิตภัณฑ์ชานมไทย กาแฟนมไทย ซึ่งกลายเป็นสินค้าที่ติดตลาดจนสร้างยอดขายและผลกำไร  ประกอบกับ มีการกระจายสินค้าดีขึ้น ส่อแววอนาคตสดใสในตลาดที่ยังมีการขยายตัวได้อีก

สำหรับภาพรวมตลาดชาเขียวในประเทศไทยยังคงคึกคัก โดยเฉพาะผลงานชาเขียวพร้อมดื่มชิซึโอกะ ชาเขียวพรีเมี่ยมนำเข้าใบชาแท้ 100% จากประเทศญี่ปุ่น สามารถครองเบอร์ 1 ในกลุ่มชาเขียวระดับพรีเมี่ยมในประเทศไทยได้อย่างต่อเนื่อง ณ สิ้นงวด 9 เดือนที่ผ่านมา มีมาร์เก็ตแชร์ 30.93% ขณะที่ตลาดชาพรีเมี่ยมทั้งตลาดเติบโตสูงถึง 24% เมื่อเทียบกับตลาดชากลุ่มอื่น และเติบโตต่อเนื่องมาแล้ว 3 ปี ตอกย้ำความสำเร็จของอิชิตันในการขยายไลน์สินค้ากลุ่มรับเทรนด์สุขภาพ

ส่วนรายได้จากการขายในงวดไตรมาส 3/2562 อยู่ที่ 1,135.4 ล้านบาท ลดลง 8.2%  เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 1,237.2 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการส่งออกลดลง  34% จากผลกระทบค่าเงินบาทแข็งตัว  และสภาพเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าชะลอตัว แต่ได้รับแรงสนับสนุนจากยอดขายในประเทศที่เติบโตกว่า 8 %  เป็นผลจากกลยุทธ์การบริหารผลิตภัณฑ์ในแต่ละแบรนด์ การวางแผนกิจกรรมการตลาดเพื่อเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะยอดขายสินค้าขนาด 280 มล. ที่เพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ  แคมเปญอิชิตันยกลัง ลุ้นรถรวยทอง ภาค 2 ทำหน้าที่กระจายสินค้าเข้าสู่ตลาด Traditional Trade หรือร้านค้าปลีกรายย่อยทั่วประเทศ ในขณะที่อิชิตันชิวชิว ใช้กลยุทธ์เข้าถึงผู้บริโภค Gen z จับมือ Garena Free Fire สร้างความแปลกใหม่เอาใจคอเกมเมอร์  สำหรับสินค้ากลุ่มอิชิตันและเย็นเย็น จัดแคมเปญลุ้นไปชมศึกแดงเดือดที่ประเทศอังกฤษร่วมกับ all Member ของ 7-11 เจาะกลุ่มแฟนบอลไทยทั่วประเทศ

ส่งผลให้ผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกปีนี้ (มกราคม – กันยายน 2562) อิชิตันมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 323.6 ล้านบาท เติบโต 1,133% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 26.2 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายอยู่ที่ 4,099.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.3%  เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 3,891.7 ล้านบาท มั่นใจอิชิตันในปี 2562 คืนฟอร์มกลับมายืนหยัดได้อย่างแข็งแกร่ง  ตั้งเป้ารายได้เติบโตจากปี 2561 ที่มีรายได้ 5,216 ล้านบาท ความสามารถในการทำกำไรมีโอกาสทำสถิติสูงสุดในรอบ 4 ปี

ณ สิ้นเดือนกันยายน 2562  ภาพรวมตลาดชาพร้อมดื่มมีมูลค่าตลาด 9,329 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น 4.1% ในเชิงมูลค่า และเพิ่มขึ้น 3.1%ในเชิงปริมาณ แบ่งเป็นชาเขียวพรีเมี่ยมสัดส่วน 10.98% ของมูลค่าตลาดชาทั้งหมด โดยชาเขียวพร้อมดื่มชิซึโอกะ มีส่วนแบ่งการตลาดชาพรีเมี่ยมสูงสุดอยู่ที่ 30.93% ตามมาด้วยแบรนด์อื่นๆ ได้แก่ Fujicha, Itoen, Pokka, Oishi gold

ทางด้านแนวทางกลยุทธ์การสร้างตลาดใหม่ การรับจ้างผลิต และการพัฒนาธุรกิจใหม่ ตามแนวทางที่บริษัทได้วางไว้ ยังอยู่ในระหว่าการพิจารณา คาดว่าจะสรุปและเริ่มดำเนินการได้ภายในปี 2563

ที่มา : ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

www.mitihoon.com