ขณะเดียวกันบริษัทคาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากภาครัฐออกมาตรการช่วยกระตุ้นอสังหาฯ ด้วยการออกมาตรการลดค่าธรรมเนียมการจดจำนองและค่าธรรมเนียมการโอนสำหรับที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ที่เพิ่งมีผลบังคับใช้ทั่วประเทศเมื่อ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา และมาตรการลดหย่อนภาษีสูงสุด 2 แสนบาท ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีสินค้าพร้อมขาย(สต๊อค) อยู่ราว 8-9 พันล้านบาท โดยมีสินค้าที่ต่ำกว่าอยู่ 60-70%
อย่างไรก็ตามบริษัทตั้งงบลงทุนไว้ราว 1 หมื่นล้านบาท เพื่อใช้สำหรับการก่อสร้างคอนโดมิเนียม บ้านจัดสรร รวมถึงใช้ในการซื้อที่ดินเพื่อรองรับการพัฒนาโครงการใหม่ๆ และคาดว่าจะใช้งบเพิ่มเติมในการลงทุนโครงการโรงแรมราว 500-1,000 ล้านบาท ซึ่งในปี 63 บริษัทจะเปิดบริการโรงแรมใหม่ได้ 2 แห่งในช่วงเดือน ม.ค. 63 คือ โรงแรม “ฮอลิเดย์ อินน์” และโรงแรม “ไอบิส” และจะสามารถรับรู้รายได้เข้ามาเต็มปี ซึ่งจะผลักดันสัดส่วนรายได้ประจำในปี 63 ให้เป็น 5%
ส่วนความคืบหน้าการนำบริษัทย่อย “บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด” ผู้ให้บริการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาช่วงเวลาที่เหมาะสม คาดว่าเร็วสุดจะเป็นช่วงปลายปี 63 หรืออย่างช้า 1-2 ปี ซึ่งผลการดำเนินงานปีนี้คาดจะมีรายได้ราว 350 ล้านบาท มีกำไรเติบโต 15% จากปีก่อนมีรายได้ 200 ล้านบาท มีกำไรโต 10%