ธุรกิจโรงพยาบาลมุ่งปรับตัวสู่ รพ.อัจฉริยะ สู้ศึกดิจิทัลดิสรัปชั่น  เนทติเซนท์สบช่องส่ง Netizen Peony เชื่อม Cloud ทำงานเรียลไทม์

442

มิติหุ้น-Netizen เผยบริษัทกว่า 78% กำลังมุ่งทรานส์ฟอร์มสู่ดิจิทัล และผู้นำองค์กร 93% ประกาศวิชันให้บุคลากรปรับตัวสู่ยุคดิจิทัล ในขณะที่ผู้นำองค์กรทางการแพทย์กว่า 70% ชี้ยุค Digital Transformation กำลังส่งผลต่อวงการแพทย์ในอนาคต  ล่าสุดพัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัยและนวัตกรรมใหม่เจาะตลาด Healthcare  ด้วยระบบ ERP เวอร์ชัน Netizen Peony พร้อมเปิด”Netizen.Cloud”  เชื่อมโยงการทำงานแบบ Real-time  ตัวจะช่วยผลักดันบริการทางการแพทย์ให้เดินหน้าเข้าสู่ Intelligent Hospital อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต และการดูแลสุขภาพของคนไทยให้ดียิ่งขึ้นในอนาคต ซึ่งส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ สังคม ของมนุษยชาติแบบองค์รวม 

นายกฤษดา สาธุกิจชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนทติเซนท์ จำกัด (Netizen) ประกอบธุรกิจที่ปรึกษาการวางระบบซอฟต์แวร์การบริหารจัดการทางธุรกิจ ERP (Enterprise Resource Planning) เปิดเผยว่า บริษัทขนาดใหญ่และขนาดกลางในทุกกลุ่มอุตสาหกรรมก่า 78 % กำลังมุ่งทรานส์ฟอร์เมชั่นองค์กรสู่ดิจิทัลในอีก 2 ข้างหน้า โดยผู้นำองค์กรกว่า93 % จะประกาศมีวิสัยทัศน์กระตุ้นให้บุคลากรภายในองค์กรปรับตัวสู่ระบบดิจิทัล เพื่อเพิ่มขีดความสามาถในการแข่งขันให้กับธุรกิจ ในกลุ่มธุรกิจโรงพยาบาลเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่กำลังเผชิญหน้ากับคลื่นดิจิทัลดิสรัปชั่น เดียวกัน ส่งผลให้ Netizen จึงได้มองเห็นความสำคัญในการช่วยวางระบบ ERP เพื่อทรานส์ฟอร์มธุรกิจกลุ่มโรงพยาบาลสู่การเป็นโรงพยาบาลอัจฉริยะ (Intelligent  Hospital)  ปัจจุบันระบบการให้บริการหน้าบ้าน (Front Office) ได้มีการพัฒนาไปค่อนข้างมาก เพื่อให้เข้าถึงการรักษาพยาบาลคนไข้ให้ได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น แต่ในขณะที่ระบบหลังบ้าน (Back Office) โรงพยาบาลส่วนใหญ่ยังคงใช้ระบบซอฟท์แวร์เวอร์ชั่นเดิม ทำให้การเข้าถึงและเชื่อมโยงกับระบบหน้าบ้านไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควรในการจัดการและตรวจสอบข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที 

ล่าสุด Netizen  ได้พัฒนาระบบหลังบ้านเพื่ออุตสาหกรรม Healthcare ในการวางระบบ ERP เวอร์ชัน Netizen Peony เพิ่มเติมจาก SAP S/4HANA เพื่อวางรากฐานระบบการบริหารจัดการทรัพยากรภายในองค์กรให้กับธุรกิจโรงพยาบาล ช่วยในการปรับโมเดลธุรกิจโรงพยาบาลให้มีความยืดหยุ่น  สามารถตอบสนองต่อความต้องการของคนไข้ และการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างประชากรอย่างรวดเร็ว รวมถึงการสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ สามารถเชื่อมโยงการทำงานภายในองค์กร และโรงพยาบาลภายในเครือ โดยการเข้าถึงข้อมูล (Smart Data) ได้แบบเรียลไทม์( Real-time )เพื่อช่วยในการวิเคราะห์และตัดสินใจ สร้างกลยุทธ์เพื่อเข้าถึงการบริการใหม่ๆ สำหรับวงการ Healthcare ด้วยการพัฒนากระบวนการทำงาน กำหนดขอบเขตความรับผิดชอบที่ชัดเจน และตรวจสอบกระบวนการทำงาน เพื่อลดขั้นตอน และปริมาณงานของพนักงาน เน้นสร้างความโปร่งใส่ในการทำงานนำไปสู่ Operation Excellence ทำให้เกิดความคล่องตัวในการทำงาน และการให้บริการเทียบเท่าระดับมาตรฐานสากลโลก

นายเสรี สาธุกิจชัย ประธานฝ่ายปฏิบัติการ เสริมว่าล่าสุด Netizen ได้เปิดตัวการวางระบบ SAP ERP “Netizen Peony”  บน “Netizen.Cloud” ซึ่งเป็น Cloud for Enterprise สำหรับกลุ่มลูกค้าที่ใช้งานระบบ ERP โดยเฉพาะและยังมีแพลตฟอร์ม Database In-Memory Technology บนระบบความปลอดภัยมาตรฐานสากล และ Embedded Analytics Report เวอร์ชันใหม่ล่าสุด การติดตั้งระบบ Netizen Peony และฐานข้อมูลบนคลาวด์ เซิร์ฟเวอร์ ที่ครอบคลุมไปถึง การประมวลผล หน่วยจัดเก็บข้อมูล และระบบออนไลน์ต่าง ๆ ทำให้สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องมีการลงทุนทางด้านฮาร์ดแวร์ มากไปกว่านั้นด้วยการผสานเทคโนโลยี AI ทำให้สามารถต่อยอด นำธุรกิจโรงพยาบาลไปสู่ Intelligent Healthcare ได้ในอนาคต  การทำงานร่วมกันของ ระบบ Netizen Peony บน Netizen.Cloud ช่วยผสมผสานและควบคุมการทำงานทำให้โรงพยาบาล สามารถเชื่อมโยงข้อมูลภายในระบบเดียวกัน และเชื่อมต่อเข้ากับระบบ HIS (Hospital Information System) ของทางโรงพยาบาลได้เป็นอย่างดี เช่น ช่วยให้สามารถจัดการบัญชีได้ตรงตามมาตรฐานของระบบบัญชีมหาชน จัดทำงบรายเดือนและปิดงบได้ภายในระเวลาอันสั้น เพิ่มความแม่นยำ ความรวดเร็วในการเข้าถึงข้อมูลได้ตลอดเวลา นำไปสู่ Health Care Value Chain ช่วยเพิ่มผลผลิตทั้งในการดำเนินงานและการบริการ

ทั้งนี้ระบบ “Netizen Peony” สามารถรองรับการเชื่อมต่อกับเครื่องมือ และเทคโนโลยีทางการแพทย์ รวมไปถึงระบบบริหารการจัดการยาและเวชภัณฑ์ ช่วยลดต้นทุนในค่ายาและค่ารักษาพยาบาล นำมาซึ่งค่ารักษาพยาบาลที่คุ้มค่า ช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการให้บริการที่มีคุณภาพ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากยิ่งขึ้น สำคัญยังมีระบบบริหารเส้นทางการรักษาของผู้ป่วย (Patient Flow Management) ตั้งแต่ ตารางออกตรวจของแพทย์ การนัดหมายผู้ป่วย การจัดการคิว ไปจนถึงขั้นตอนการให้บริการผู้ป่วย ด้วยระบบจัดคิวอัจฉริยะ ผ่านทางแอปพลิเคชัน และการแจ้งเตือนคนไข้ผ่านทาง Line แอปพลิเคชัน เช่น การทำนัด หมายเลขคิว ติดตามสถานะผู้ป่วย เส้นทางและขั้นตอนในการรับการรักษา และสามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อพัฒนากระบวนการทำงานในการร่วมสร้างประสบการณ์ที่ดี และปรับปรุงจุดเชื่อมต่อการบริการให้กับลูกค้า เพื่อตอบสนองต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ช่วยลดเวลาและความแอดอัดของผู้ป่วยในการรอคิวรักษาพยาบาล ซึ่งรวมไปถึงการยกระดับการให้บริการทางการแพทย์ไปสู่ Service Intelligence ซึ่งสามารถทำให้ประชาชนได้รับการให้บริการที่มีคุณภาพ รวดเร็ว และมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น