BC ผู้นำธุรกิจ BOS กางแผนปีหน้าขายไม่ต่ำกว่า 4 โครงการ หนุนเป้าผลงานปี 63 โดดเด่นต่อเนื่อง

48

มิติหุ้น –  บมจ.บูทิค คอร์ปอเรชั่น (BC) ผู้นำการพัฒนาโครงการรูปแบบ BOS Model หรือ Build-Operate-Sell นำโดย “คุณปรับชะรันซิงห์ ทักราล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออกมาย้ำเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ BC ระยะยาว ไม่มีขายหุ้นออกอย่างแน่นอน พร้อมจัดทัพทีมงานเดินหน้าขยายโครงการต่อเนื่อง ชูจุดเด่นไม่มีคู่แข่งทางตรงในธุรกิจ และมีโครงการทำเลทองที่โดดเด่นรอขายแล้วจำนวนมาก ตั้งเป้าหมายปี 63 เตรียมขายโครงการอีกไม่ต่ำกว่า 4 โครงการ ส่วนปีนี้การันตีงบเดี่ยว BC มีกำไรเป็นบวก หรืองบ 9 เดือน ปี 62 กำไรสุทธิรวมอยู่ที่ 246 ล้านบาท เติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อน 158.7% อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 77.2% อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 26.6% สามารถจ่ายปันผลได้   
นายปรับชะรันซิงห์ ทักราล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BC ผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจสร้าง – ดำเนินงาน – ขาย (Build-Operate-Sell : BOS) อสังหาริมทรัพย์หลากหลายประเภท ทั้งโรงแรม เซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ Commercial Mixed Use ได้แก่ ศูนย์การค้า และอาคารสำนักงานให้เช่า รวมทั้งธุรกิจบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า BC เป็นผู้นำธุรกิจพัฒนาโครงการรูปแบบ BOS รายแรก ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีความโดดเด่นในการทำกำไร แตกต่างกับผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบอื่น และมีศักยภาพการเติบโตในระยะยาว ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่เชื่อมั่นธุรกิจ และไม่มีนโยบายขายหุ้นออกมา
ภายหลังจากการระดมทุนในครั้งนี้ ถือเป็นการปลดล็อคเรื่องแหล่งเงินทุน บริษัทฯ จะสามารถนำเงินที่ได้จากการ IPO ไปต่อยอดธุรกิจได้ทันที สนับสนุนรายได้และกำไรของบริษัทฯ ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน เมื่อขายโครงการออกไปแล้ว บริษัทฯ ยังมีรายได้สม่ำเสมอจากการบริหารโครงการ และเดินหน้าพัฒนาโครงการที่มีศักยภาพต่อไป ดังจะเห็นได้จากความสำเร็จก่อนหน้านี้ซึ่ง BC สามารถขายโครงการออกไปได้แล้ว 6 โครงการ รวมมูลค่าโครงการ 3,525 ล้านบาท และรวมมูลค่ากำไรจากการขายโครงการประมาณ 1,626 ล้านบาท ซึ่งเฉลี่ย 6 ปีที่ผ่านมาขายได้ปีละ 1 โครงการ แต่ปี 2562 ขายได้ 2 โครงการ และเป้าหมายปี 2563 จะขายโครงการไม่ต่ำกว่า 4 โครงการ
สำหรับการลงทุนของบริษัทฯ จะเน้นลงทุนในโครงการขนาดกลาง-เล็ก ซึ่งมีมูลค่าโครงการเฉลี่ยต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท และอยู่ในทำเลใจกลางกรุงเทพฯ หรือในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ เชียงใหม่ ภูเก็ต และพัทยา ทำให้มีนักลงทุนที่สนใจจำนวนมากและสามารถขายโครงการออกได้ง่าย ทั้งนี้บริษัทฯ ได้กำหนดอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) ไม่ต่ำกว่า 15% ซึ่งที่ผ่านมาทำได้ดีกว่าเป้า
“นักลงทุนอาจกังวลภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอตัว ซึ่ง BC เราไม่กระทบ และเราไม่ได้ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เหมือนบริษัททั่วไป รูปแบบธุรกิจ BOS คือ “สร้าง – ดำเนินการ – ขาย” เป็นธุรกิจที่ใหม่ในตลาดหลักทรัพย์ และมีกำไรสูง เปรียบเสมือนการพัฒนาโครงการเป็นสินค้าในมือที่มีพร้อมขายและทำกำไรต่อ และด้วยความเชี่ยวชาญ BC สามารถสร้างโครงการได้หลากหลายประเภท ทำให้เป็นที่ต้องการของนักลงทุน โดยบริษัทฯ อยู่ระหว่างพิจารณาการขายโครงการในปีหน้าไม่ต่ำกว่า 4 โครงการ ทั้งนี้ในแง่ของผลประกอบการ หากดูกำไรในงบบริษัทใหญ่อย่างเดียวอาจไม่สะท้อนภาพรวมธุรกิจที่แท้จริง เนื่องจากธุรกิจ BOS ดำเนินการผ่านการจัดตั้งบริษัทย่อยตามโครงการที่พัฒนาเพื่อขาย จึงต้องดูงบเดี่ยวที่ปัจจุบันมีผลกำไรเป็นบวก และสามารถจ่ายปันผลออกมาได้” นายปรับชะรันซิงห์ ทักราล กล่าว
ปัจจุบัน โครงการที่ BC กำลังพัฒนาทุกโครงการเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ มีโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนา (Build) จำนวน 8 โครงการ คาดจะทยอยแล้วเสร็จไปจนถึงปี 2564 และมีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ (Operate) 9 โครงการ ได้แก่ โครงการที่รอขายในอนาคต (BOS) จำนวน 5 โครงการ และโครงการที่บริษัทฯ มีนโยบายเป็นผู้ดำเนินงานและบริหารจัดการเอง (Non-BOS) 4 โครงการ เสริมศักยภาพการเติบโตให้ BC เป็นหุ้น Growth Stock ที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่น และไม่มีคู่แข่งทางตรงในธุรกิจนี้
สำหรับผลประกอบการของ BC และบริษัทย่อยงวด 9 เดือนแรกของปี 2562 รายได้รวมอยู่ที่ 723 ล้านบาท เติบโต 240 ล้านบาท หรือคิดเป็น 49.8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการขายโครงการซัมเมอร์ ฮิลล์ และ ซัมเมอร์ ฮับ ออฟฟิศ ในช่วงไตรมาส 2/2562 ที่ผ่านมา และได้รับการแต่งตั้งให้บริหารสินทรัพย์ต่อ ขณะที่กำไรสุทธิรวมในงวด 9 เดือนแรกของปี 2562 (รวมส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุม) อยู่ที่ 246 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 151 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโต 158.7% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 77.2% อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 26.6%
สำหรับผลประกอบการของ BC ต้องพิจารณาภาพรวมธุรกิจทั้งปี หากพิจารณาเป็นรายไตรมาสอาจไม่สะท้อนการเติบโตที่แท้จริง เพราะหากช่วงไหนมีการขายโครงการจะทำให้รับรู้รายได้และกำไรเข้ามาในระดับสูงทั้งนี้ในด้านบทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์หลายแห่งให้ราคาเป้าหมายในปี 2562 ของ BC อยู่ที่ 3.20 – 3.95 บาทต่อหุ้น สะท้อนโอกาสในการลงทุน และมองเป็นอีกหุ้น Growth Stock ที่มีความสามารถในการบริหารงานและสร้างการเติบโตที่ดี จึงมั่นใจธุรกิจของ BC ไม่ใช่ธุรกิจขาลง วันนี้บริษัทฯ มีความพร้อมยิ่งกว่าเดิมจากการระดมทุนเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ด้วยเป้าหมาย สร้างผลประกอบการที่แข็งแกร่ง มั่นคง ในระยะยาว

www.mitihoon.com