จับตาข้อตกลงการค้าจีน-สหรัฐฯ ส่งสัญญาณบวก

75

คอลัมน์ KTBST Build  Your Net Worth

สัปดาห์ทำการสุดท้ายของเดือน พ.ย. ดูเหมือนตลาดเริ่มมีความคึกคักกลับมาเข้ามาบ้าง จากเรื่องการทำข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน ที่ส่งสัญญาณในเชิงบวกมากขึ้น ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกเมื่อวันจันทร์ (25 พ.ย.) ที่ผ่านมาปรับตัวขึ้น เช่นเดียวกัน SET Index บ้านเรา ปิดตลาดในแดนบวก ที่ระดับ 1,614.80 จุด เพิ่มขึ้น 17.08 จุด (+1.07%) 

ประเด็นสำคัญคือ การประกาศแนวทางที่จะหยุดการละเมิดทรัพย์สินทางปัญหาของจีน  ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อตกลงที่สหรัฐฯได้เรียกร้อง ทำให้การทำสัญญาข้อตกลงกันในระยะที่ 1 มีแนวโน้มจะสำเร็จมากขึ้น  แต่ยังคงต้องติดตามสถานการณ์ดังกล่าวต่อเนื่องจนกว่าจะมีการทำข้อตกลงกันจริง

ทั้งนี้ KTBST ประเมินว่า จากการเจรจาการค้าที่เป็นผลในทางที่ดี ส่งผลบวกต่อหุ้นที่ KTBST มองว่ามีพื้นฐานดีและมีระดับราคี่น่าสนใจ ได้แก่ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์  (HANA , KCE) , เดินเรือ (PRM  , PSL)  , ปิโตรเคมี (IVL  , PTTGC ) และโรงกลั่น  (IRPC ,BCP ,SPRC) 

แนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ คาดว่าเคลื่อนไหวในแดนบวกตามตลาดหุ้นต่างประเทศ แต่ยังมีประเด็นที่น่าสนใจให้นักลงทุนต้องติดตาม คือ วันที่ 27 พ.ย. จะมีการรายงาน จีดีพี ไตรมาส 3 ของสหรัฐฯ คาดว่าจะออกมาอยู่ที่ 1.95% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา (QoQ)  ชะลอลงจากไตรมาส 2 ซึ่งอยู่ที่ 2%  ปัจจัยหลักคือการส่งออกกับการลงทุนภาคเอกชนที่ชะลอลงอย่างต่อเนื่อง มีเพียงการบริโภคที่ยังสามารถเติบโตต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีการลดดอกเบี้ยลงในช่วงที่ผ่านมา 

ส่วนในวันที่ 28 พ.ย. จะมีการรายงานตัวเลขดัชนีค้าปลีกของญี่ปุ่น คาดว่าจะยังคงหดตัวลงต่อเนื่องที่ระดับ -4% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา (YoY) เหตุจากการปรับขึ้นภาษีค้าปลีกของญี่ปุ่น และการกักตุนสินค้าในช่วงเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตามคาดว่า ตัวเลขค้าปลีกจะเข้าสู่ภาวะปกติในช่วงเดือน ธ.ค. นี้

ด้านเอเชีย ในวันที่ 29 พ.ย.  จะมีการรายงานตัวเลข จีดีพี ไตมาส 3 ของอินเดี คาดว่าจะออกมาอยู่ที่ระดับ 4.7%  YoY ชะลอลงจากชาวงก่อนหน้าที่ 5 %  แต่อย่างไรก็ตามคาดว่านโยบายการลดภาษีของอินเดียจะเป็นผลบวกกับเศรษฐกิจในปี 2020 เป็นต้นไป ดังนั้น KTBST ยังให้น้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นอินเดียเท่ากับตลาด (Neutral)

การเจรจาการค้าจะเป็นปัจจัยหลักประการเดียวที่จะมีผลต่อทิศทางตลาดในอีก 1 เดือนที่เหลือของปีนี้ นอกเหนือจากปัจจัยในประเทศจะมีเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ และแรงซื้อกองทุนเพื่อลดหย่อยภาษีที่จะเข้ามาในช่วงเดือน ธ.ค. ดังนั้น การลงทุนในช่วงนี้ต้องปรับพอร์ตกระจายความเสี่ยงตามภาวะตลาด  โดยสินทรัพย์ที่ KTBST แนะนำยังคงเป็นตลาดหุ้นจีน , อินเดีย รวมถึงกองทุนอสังหาริมทรัพย์ทั้งในและต่างประเทศ

ติดตามข่าวสารการลงทุนได้จาก ”มุมความรู้”  https://www.ktbst.co.th/th/knowledge.php

                                คุณชาตรี  โรจนอาภา รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ 

                                                               บล. เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (KTBST)

www.mitihoon.com