มิติหุ้น-บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (“MINT” หรือ “บริษัท”) มีความยินดีที่จะประกาศแต่งตั้งนายดิลิป ราชากาเรียดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท (Group CEO) แทนนายวิลเลี่ยม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค ซึ่งจะย้ายไปดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหาร ในขณะที่ยังคงดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการ โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมปี 2563 เป็นต้นไป
จากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการกลุ่มบริษัทของ MINT สู่ตำแหน่งใหม่ นายดิลิปจะยังคงดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของไมเนอร์ โฮเทลส์ เพื่อพัฒนาธุรกิจโรงแรมไปสู่ความสำเร็จยิ่งขึ้นต่อไปอีกด้วย
ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทของ MINT นายดิลิปจะมีหน้าที่รับผิดชอบกลยุทธ์โดยรวมของบริษัทในทุกหน่วยธุรกิจหลัก รวมถึงหน่วยงานสนับสนุน ฝ่ายการจัดการ (Shared Service) ทั้งในส่วนของกฎหมาย เทคโนโลยีสารสนเทศ และการเงิน และรวมถึงการพัฒนาพนักงานและวัฒนธรรมองค์กร ทั้งนี้ ด้วยความมุ่งเน้นในการผลักดันการขยายธุรกิจ ทั้งรายได้ และผลกำไรจากทั่วทุกมุมโลก นายดิลิปจะเป็นผู้นำบริษัทไปสู่เป้าหมายระยะยาวในการเป็นผู้นำระดับสากลในทั้งสามธุรกิจหลัก ซึ่งได้แก่ ธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และไลฟ์สไตล์ โดยการเข้ามาดำรงตำแหน่งผู้นำของ MINT ในเดือนมกราคมปี 2563 นายดิลิปจะนำความเชี่ยวชาญในการประกอบธุรกิจในอุตสาหกรรมของตนและการมีส่วนร่วมหลักในผลงานที่ประสบความสำเร็จในอดีตของ MINT มาใช้บริหารจัดการองค์กรต่อไป
“นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับโอกาสที่ผมได้รับในการเป็นผู้นำของไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นบริษัทระดับโลกที่มีชื่อเสียงในด้านการเติบโตและในด้านบุคลากรที่ที่มีความสามารถ ผมมีความมั่นใจเป็นอย่างมากในอนาคตที่สดใสของบริษัท แน่นอนว่าบริษัทกำลังดำเนินการอย่างรวดเร็วในการปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อการเติบโตที่เร็วยิ่งขึ้น และเพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทสามารถตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วของลูกค้าจากทั่วทุกมุมโลกในทุกธุรกิจของบริษัท” นายดิลิป ราชากาเรียกล่าวก่อนที่จะกล่าวชื่นชมผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการของ MINT “ความสำเร็จในอุตสาหกรรมและความเป็นผู้นำของคุณวิลเลี่ยม ไฮเน็คเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ซึ่งความสำเร็จในอดีตของบริษัทเป็นเครื่องพิสูจน์ที่ดี โดยคุณวิลเลี่ยมมีความเข้าใจในอุตสาหกรรมอย่างลึกซึ้งและการอุทิศตนในกับบริษัทอย่างทุ่มเท ส่งผลให้บริษัทประสบความสำเร็จในระดับสากลในปัจจุบันและผมมีความตั้งใจอย่างเต็มที่ที่จะสร้างมูลค่าและสินทรัพย์ต่อจากความสำเร็จของเขาต่อไปในอนาคต”
นายวิลเลี่ยม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการของ MINT กล่าวถึงการปรับตำแหน่งในครั้งนี้ว่า “คุณดิลิปเป็นบุคลากรที่มีความสำคัญต่อความสำเร็จของ MINT และไมเนอร์ โฮเทลส์เป็นอย่างมากตลอดกว่า 10 ปีที่ผ่านมา โดยในฐานะผู้บริหารระดับสูง คุณดิลิปมีความสามารถทางธุรกิจและความเป็นผู้นำ ประกอบกับความมุ่งมั่นในความเป็นเลิศ ทีทำให้คุณดิลิปได้ช่วยนำพาองค์กรให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นและมีชื่อเสียงที่แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น” นายวิลเลี่ยมกล่าวเพิ่มเติมว่า “ความมุ่งมั่นและความสำเร็จของคุณดิลลิปตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบันเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมอย่างมาก โดยทั้งคณะกรรมการและตัวผมเองมีความมั่นใจในตัวคุณดิลลิปเป็นอย่างมากในฐานะผู้ขับเคลื่อนบริษัทเพื่อก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการเติบโตในระดับสากล ทั้งนี้ ด้วยความเข้าใจในความสำคัญของผู้ถือหุ้น ลูกค้า และพนักงานรวมถึงกลยุทธ์เพื่อการเติบโตของบริษัท ส่งผลให้คุณดิลิปเป็นผู้ที่เหมาะสมเป็นอย่างมากในหน้าที่ที่จะเสริมสร้างธุรกิจในปัจจุบันให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้นและการเตรียมปัจจัยความพร้อมต่างๆ เพื่อให้ MINT สามารถที่จะเก็บเกี่ยวความสำเร็จอย่างต่อเนื่องได้ต่อไปในอนาคต”
นายดิลิปเข้าร่วมงานกับไมเนอร์เมื่อเดือนมีนาคมปี 2550 ในตำแหน่งรองประธานฝ่ายการเงินของกลุ่มโรงแรม ซึ่งนายดิลิปมีบทบาทสำคัญในการสร้างการเติบโตและความสำเร็จให้กับธุรกิจโรงแรม ส่งผลให้บริษัทกลายเป็นผู้นำที่ได้รับการยกย่องเป็นอย่างมากในอุตสาหกรรม โดยความสำเร็จที่โดดเด่นภายใต้ความดูแลของนายดิลิป ได้แก่ การเข้าซื้อเอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ป ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการลงทุนครั้งที่ใหญ่ที่สุดของไมเนอร์ โฮเทลส์ แต่ยังเป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญ การเพิ่มแบรนด์ทิโวลี ในทวีปยุโรปและละตินอเมริกา แบรนด์เอเลวาน่าในทวีปแอฟริกา แบรนด์โอ๊คส์ ในประเทศออสเตรเลีย และอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ ภายใต้ความดูแลของนายดิลิป แบรนด์อนันตราได้ขยายจากทวีปเอเชียไปยังตะวันออกกลาง แอฟริกา และยุโรป ในขณะที่ แบรนด์อวานีได้ถูกสร้างขึ้นและกลายเป็นเครือโรงแรมที่มีขนาดใหญ่ โดยในปัจจุบัน ไมเนอร์ โฮเทลส์เป็นเครือโรงแรมที่แข็งแกร่ง มีโรงแรมมากกว่า 520 แห่ง อีกทั้งนายดิลิปยังเป็นผู้ดูแลผลการดำเนินงานทางการเงินที่แข็งแกร่งของธุรกิจโรงแรม ซึ่งมีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากต่อความสำเร็จโดยรวมของบริษัท
นายดิลิป ราชากาเรียกล่าวเพิ่มเติมว่า “MINT จะเสริมความแข็งแกร่งในการเป็นผู้นำในธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และไลฟ์สไตล์ผ่านแบรนด์ที่หลากหลาย ซึ่งจะช่วยตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เรายังคงมีความมั่นใจในแนวโน้มที่ดีของบริษัทในอนาคต โดยมีการพิจารณาโอกาสทางธุรกิจที่มีอยู่เดิมและโอกาสใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทจะมุ่งปรับโครงสร้างองค์กร ด้วยแนวทางที่ต่างไปจากเดิมและการใช้เครื่องมือทางเทคโนโลยีและดิจิทัลใหม่ ๆ รวมถึงการสร้างวัฒนธรรมองค์กรและพัฒนาความสามารถของบุคลากรของบริษัทเพื่อเพิ่มศักยภาพให้สูงที่สุด”