มิติหุ้น- PTG ปักธง EBITDA ปี 2562 เติบโต 40-50% ย้ำเป้าปริมาณการจำหน่ายน้ำมันเติบโต 16-20% รับผลบวกแบรนด์ติดตลาดลูกค้าใช้บริการแน่น พร้อมด้วยค่าการตลาดอยู่ในระดับที่เหมาะสม หนุนให้บริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจในปี 2562 กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อม (EBITDA) จะเติบโต 40-50% จากปี 2561 เนื่องจากค่าการตลาดอยู่ในระดับที่เหมาะสม และไม่มีความผันผวนมากนัก ทำให้บริษัทสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คงเป้าหมายขายน้ำมัน20%
ขณะเดียวกันบริษัทยังคงเป้ายอดปริมาณการจำหน่ายน้ำมันปี 2562 จะเติบโต 16-20% จากปี2561 ที่มียอดปริมาณการจำหน่ายน้ำมันอยู่ที่ 3,921 ล้านลิตร เนื่องจากแบรนด์ของบริษัทมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการสูงขึ้น ประกอบกับฐานลูกค้าใหม่ที่มีการขยายตัวมากขึ้น ทำให้ความต้องการน้ำมันมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
อีกทั้ง บริษัทยังได้มีกิจกรรมเพิ่มยอดขายของสถานีบริการน้ำมันเดิม พร้อมทั้ง วางแผนขยายสถานีบริการใหม่ให้เพิ่มเป็น 2,000 สาขา จากปี 2561 ที่มีสถานีบริการน้ำมันอยู่ที่ 1,883 สาขา โดยบริษัทจะเน้นการขยายสาขาในทำเลที่สามารถรองรับการให้บริการ non-oil อื่น ๆ ให้แก่ลูกค้า เพื่อสนับสนุนการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต
นอกจากนี้ ในปี 2562 บริษัทยังคงเป้างบลงทุนอยู่ที่ 4,000-4,500 ล้านบาท เพื่อใช้รองรับการขยายสาขาของสถานีบริการน้ำมันและแก๊ส LPG ประมาณ 3,000-3,500 ล้านบาท ธุรกิจ Non-oil 500 ล้านบาท ส่วนที่เหลือใช้รองรับธุรกิจใหม่ และบริษัทยังเดินหน้าเน้นการขยายสถานีบริการในรูปแบบ Flagship เพื่อสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งและเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ยอด EBITDA เติบโต 40-50%
“ในปีนี้ บริษัทยังคงเป้า EBITDA เติบโต 40-50% พร้อมด้วยยอดปริมาณการจำหน่ายน้ำมันที่คาดว่าจะเติบโต 16-20% ตามที่วางแผนไว้ หลังจากค่าการตลาดอยู่ในระดับที่เหมาะสม ประกอบกับสถานีบริการน้ำมันมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และบริษัทยังได้ผลบวกจากนโยบายภาครัฐที่จะบังคับใช้ในช่วงต้นปีหน้า ในการเพิ่มสัดส่วนการผสมน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ในน้ำมันดีเซล 10 % หรือ B10 จากเดิม B7 ทำให้ความต้องการน้ำมันไบโอดีเซลขยายตัว โดยในปัจจุบันโครงการปาล์มคอมเพล็กซ์ก็ได้เตรียมพร้อมเดินเครื่องเพื่อรองรับนโยบายรัฐบาลอย่างเต็มที่” นายพิทักษ์ กล่าว