WHART ปลื้ม ปิดจองซื้อการเพิ่มทุนครั้งที่ 4 นักลงทุนให้การตอบรับอย่างดี เตรียมลงทุนทรัพย์สินเพิ่ม ธ.ค.นี้ – หนุนขนาดสินทรัพย์ แตะ 38,000 ล้านบาท

41

มิติหุ้น- กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (WHART) ปลื้มปิดจองหน่วยเพิ่มทุนครั้งที่ 4  ผู้ถือหุ้นเดิม และนักลงทุนทั่วไป แห่จองใช้สิทธิล้น กระแสตอบรับดี เนื่องจาก WHART  ตอบโจทย์กองทรัสต์ที่ให้ผลตอบแทนต่อเนื่องและสม่ำเสมอ และมีปันผลไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของกำไรสุทธิ พร้อมชูจุดเด่นของทรัพย์สินที่เข้าลงทุน บนจุดยุทธศาสตร์ด้านโลจิสติกส์ บนพื้นที่ EEC สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มในระยะยาว และมีกลุ่มผู้เช่า E-Commerce ระดับชั้นนำ  ด้านผู้จัดการกองทรัสต์ WHART “นฤมล ตันตยาวิทย์” ระบุ ภายหลังเพิ่มทุนสำเร็จขนาดทรัพย์สินรวมจะเพิ่มเป็นประมาณ 38,000 ล้านบาท เป็นหนึ่งในผู้นำในอุตสาหกรรมกองทรัสต์ประเภทคลังสินค้า โรงงานและศูนย์กระจายสินค้าที่ใหญ่ที่สุด

นางสาวนฤมล ตันตยาวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ เรียล เอสเตท แมเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ WHART เปิดเผยว่า ภายหลังจากการเปิดให้ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมจองซื้อหน่วยทรัสต์ WHART จากการเพิ่มทุนครั้งที่ 4 จำนวนทั้งสิ้น 306.18 ล้านหน่วย โดยเสนอขายหน่วยทรัสต์ ราคา 16.70 บาทต่อหน่วยทรัสต์ ซึ่งได้มีการเปิดให้ผู้ถือหน่วยเดิมจองซื้อระหว่างวันที่ 12 – 15 และ 18 พฤศจิกายน 2562 ขณะที่ประชาชนทั่วไป ได้แก่บุคคลตามดุลพินิจของผู้จัดการการจัดจำหน่ายและผู้จัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์ จองซื้อระหว่างวันที่ 19 – 22 และ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมานั้น ปรากฏว่าหน่วยเพิ่มทุน WHART ได้รับการตอบรับจากผู้ถือหน่วยเดิม และประชาชนทั่วไปเป็นจำนวนมาก

เนื่องจากกองทรัสต์ให้ผลตอบแทนที่ดีอย่างสม่ำเสมอ โดยล่าสุดประกาศจ่ายปันผลสำหรับผลการดำเนินงาน ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2562 ถึงวันที่ 15 พ.ย. 2562 เป็นเงินสดในอัตรา 0.0965 บาท/หน่วย แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิม เพิ่มเติมจากการจ่ายเงินปันผลและลดทุนเมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2562 โดยเป็นการจ่ายจากผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ของปี 2562 ซึ่งเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นสถานะทางการเงินและศักยภาพในการจ่ายปันผลของ WHART

ประกอบกับทิศทางดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาลง ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่หันมาลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ และมีผลตอบแทนสม่ำเสมอ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของกองทรัสต์ WHART ที่มีนโยบายการจ่ายปันผลไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้วของรอบปีบัญชี

             ขณะเดียวWHART ยังสามารถรักษาสัดส่วนทรัพย์สินประเภท Freehold ต่อ Leasehold ในระดับใกล้เคียงเดิมประมาณ 67% ต่อ 33% เพื่อช่วยลดความเสี่ยงจากการลดมูลค่าของทรัพย์สินของกองทรัสต์           ในอนาคต และสามารถรักษาระดับ Occupancy rate ได้ประมาณ 90% อย่างต่อเนื่อง  ด้วย profile ของผู้เช่าพื้นที่ของกองทรัสต์ ซึ่งส่วนมากเป็นผู้เช่ารายใหญ่และมีความมั่นคง

“เชื่อว่าการลงทุนของกองทรัสต์ WHART จะสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าและมั่นคง ตามอัตราค่าเช่า และระยะเวลาการเช่าที่แน่นอน จากความโดดเด่นของทรัพย์สินที่อยู่ในด้านทำเลที่ตั้งซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์           ด้านโลจิสติกส์  รวมถึงโครงการซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ EEC ซึ่งจะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับกองทรัสต์ได้ในระยะยาว อีกทั้ง มีความโดดเด่นของผู้เช่าที่เป็นกลุ่มธุรกิจ E-Commerce ซึ่งถือว่าเป็นธุรกิจเมกะเทรนด์ ที่มีการเติบโตสูง รวมถึงผู้เช่าที่เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์และเทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Plug-in Hybrid Car) ซึ่งจะช่วยให้กลุ่มลูกค้าผู้เช่าของกองทรัสต์มีความหลากหลายมากขึ้น”

สำหรับสินทรัพย์ที่กองทรัสต์ WHART  เข้าลงทุนในครั้งนี้ ได้แก่ (1)โครงการอาคารโรงงาน DTS ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ชลบุรี ตำบลบ่อวิน อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี  (2)โครงการอาคารโรงงาน Roechling ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 1 ตำบลเขาคันทรง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี  (3)โครงการ WHA Mega Logistics Center (ชลหารพิจิตร กม.3 เฟส 1) ตั้งอยู่ที่ตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ  (4)โครงการ WHA Mega Logistics Center (ชลหารพิจิตร กม.3 เฟส 2) ตั้งอยู่ที่ ตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ และ (5)โครงการ WHA KPN Mega Logistics Center (ถนนบางนา-ตราด กม.23 เฟส 2) ตั้งอยู่ที่ ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ

นางสาวนฤมล กล่าวทิ้งท้ายว่า ภายหลังจากการเข้าลงทุนครั้งนี้ จะส่งผลให้มูลค่าทรัพย์สินรวมของกองทรัสต์ WHART เพิ่มขึ้นแตะระดับกว่า 38,000 ล้านบาท จากเดิมที่มีมูลค่าทรัพย์สินรวม 33,214 ล้านบาท ซึ่งถือได้ว่า WHART เป็นหนึ่งในผู้นำในอุตสาหกรรมกองทรัสต์ ประเภทคลังสินค้า โรงงานและศูนย์กระจายสินค้า