กรุงศรีคาดเงินบาทซื้อขายในกรอบ 30.15-30.35 เงินบาทยังแข็งค่าสุดในเอเชีย

31

มิติหุ้น-กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่ามีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 30.15-30.35 ต่อดอลลาร์เทียบกับระดับปิดอ่อนค่าที่ 30.23 ต่อดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นและพันธบัตรไทย 6.4 พันล้านบาท และ  490 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่ในเดือนพ.ย. เงินบาทอ่อนค่าราว 0.1% อยู่ในระดับกลางๆ เมื่อเทียบกับภูมิภาค ส่วนในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ เงินบาทแข็งค่าขึ้นกว่า 7% ซึ่งเป็นสกุลเงินที่แข็งค่ามากที่สุดในเอเชีย  ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวของสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยหลังตัวเลขจีดีพีไตรมาสสามและยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนแข็งแกร่งเกินคาดและสนับสนุนการคาดการณ์ของตลาดที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระยะนี้หลังจากปรับลดลงแล้ว ครั้งติดต่อกัน  

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า ตลาดโลกยังคงจับตาความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน หลังจีนกล่าวว่าจะดำเนินมาตรการตอบโต้อย่างจริงจังหากสหรัฐฯ แทรกแซงกิจการภายใน โดยนักลงทุนมองว่าการลงนามของประธานาธิบดีทรัมป์เพื่อบังคับใช้กฎหมายสนับสนุนผู้ประท้วงในฮ่องกงจะส่งผลลบต่อแนวทางการยุติสงครามการค้า อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมตลาดยังคงมีความหวังว่าการบรรลุข้อตกลงในเฟสแรกอาจเกิดขึ้นก่อนสิ้นปีนี้ ขณะที่ข้อมูลภาคการผลิตเดือนพ.ย.ของจีนบ่งชี้ถึงสัญญาณการฟื้นตัวซึ่งช่วยหนุนบรรยากาศการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงและกลุ่มสกุลเงินตลาดเกิดใหม่ได้บ้าง นอกจากนี้ ตลาดจะติดตามข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ ส่วนเงินปอนด์จะผันผวนตามผลโพลล์ในสหราชอาณาจักรช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งทั่วไปวันที่ 12 ธ.ค. 

สำหรับปัจจัยภายในประเทศ นักลงทุนให้ความสนใจกับดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนพ.ย.ซึ่งคาดว่าอาจกระเตื้องขึ้นเล็กน้อยแต่เงินเฟ้อทั่วไปยังหลุดขอบล่างของกรอบเป้าหมายคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ขณะที่ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่ายังกังวลกับเงินบาทที่แข็งค่าเร็วและมากกว่าสกุลเงินอื่นๆ โดยทางการได้เข้าดูแลต่อเนื่องสะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศที่สูงขึ้น อย่างไรก็ดี ธปท.ให้ความเห็นว่าการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดในระดับสูงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เงินบาทแข็งค่า ส่วนการเก็งกำไรระยะสั้นสำหรับเงินร้อนที่เข้ามาพักในไทยเกิดขึ้นเพียงบางช่วงเท่านั้น โดยทางการประเมินว่าเงินบาทจะผันผวนตามสถานการณ์ภายนอกนำโดยข้อพิพาททางการค้า อนึ่ง เราคาดว่านักลงทุนยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับท่าทีของทางการต่อค่าเงินบาท ขณะที่กระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายมีแนวโน้มซึมลงต่อไปในช่วงเดือนสุดท้ายของปี