ORI ถึงเวลา “ซื้อ” Q4แรงสุด ยอดโอนคอนโดใหม่พุ่ง (4/12/62)

265

มิติหุ้น – ORI โบรกฯ คาดผลงานไตรมาส 4/61 โตแรงสุดของปี หลังลุยโอนโครงการใหม่ แถมได้อานิสงส์รัฐออกมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ หนุนระบายสต็อกสินค้าเพิ่ม เคาะเป้าเหมาะสม 10 บาท ฟากผู้บริหารรุกหนักปีหน้าปั๊มยอดขายแตะ 30,000 ล้านบาท พร้อมลุยเปิดโครงการใหม่เพิ่ม

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ หรือ ORI ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร โดยนักวิเคราะห์ บล.เอเชีย เวลท์  ประเมิน ผลประกอบการไตรมาส 4/62 จะเป็นไตรมาสที่โดดเด่นสุดของปี จาก Backlog ที่จะรับรู้เป็นรายได้กว่า 5,500 ล้านบาท ซึ่งจะช่วย Secure รายได้ที่ 90% ของประมาณการไว้ทั้งปี 2562 โดยมาจากการโอนโครงการทั้ง Khights Bridge Prime สาธร ซึ่งคาดว่าจะโอนได้ในไตรมาส 4/62 ราว 2,500 ล้านบาท และการโอนโครงการต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า

รัฐหนุนอสังหาฯ    
ประกอบกับบริษัทสามารถระบายสต็อกโครงการได้จากการได้รับอานิงส์จากทั้งมาตการลดหย่อนค่าธรรมเนียมและแคมเปญกู้ดอกเบี้ยถูกจาก ธอส. ซึ่งจากแผนการโอนโครงการทั้งหมด คาดว่ารายได้ของบริษัทในปี 2562 จะอยู่ในระดับ 16,000-17,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นในระดับที่ประมาณการไว้ ดังนั้น แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 10 บาท
ด้านนายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ORI เผยว่า จากมาตรการรัฐที่ออกมาช่วยกระตุ้นอสังหาฯ ช่วงปลายปี ทั้ง 2 มาตรการ ได้แก่ การลดค่าธรรมเนียมการโอนและค่าจดจำนอง รวมถึงโครงการ “บ้านดีมีดาวน์” จะช่วยกระตุ้นยอดขายช่วงที่เหลือของปีได้ต่อเนื่องถึงต้นปีหน้า ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ผ่านพ้นช่วงจุดต่ำสุดไปได้
ขณะที่ปัจจุบันบริษัทสามารถทำยอดขายได้แล้วกว่า 90% จากเป้าหมายทั้งปีที่ 2.5 หมื่นล้านบาท และบริษัทได้ออกแคมเปญฉลองครบรอบ 10 ปี โดยมีโครงการคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่แนวรถไฟฟ้าและใน EEC จำนวน 12 โครงการ รวมถึงมีจัดแคมเปญร่วมกับ Lazada จองคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายรวมและรายได้ทั้งปีของบริษัทให้เป็นไปตามเป้าหมาย

ส่องผลงานปีหน้าสดใส

ส่วนแผนการเติบโตในปี 63 บริษัทวางเป้ายอดขายไว้ที่ระดับ 30,000 ล้านบาท โดยจะมีการเปิดขายโครงการใหม่ มูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 29,000 ล้านบาท และจะเพิ่มสัดส่วนการเปิดขายโครงการบ้านจัดสรรเพิ่มเป็น 40% ของพอร์ต จากปัจจุบันอยู่ที่ 30% ขณะเดียวกันบริษัทยังได้มีการพัฒนารูปแบบโครงการและฟังชั่นให้เหมาะสมกับผู้อยู่อาศัยและผู้บริโภคในพื้นที่นั้นๆ
ขณะเดียวกัน ตั้งงบลงทุนในปี 63 ไว้ที่ประมาณ 10,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการก่อสร้างโครงการคอนโดมิเนียม, บ้านจัดสรร รวมถึงใช้ในการซื้อที่ดิน เพื่อรองรับการพัฒนาโครงการใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง

www.mitihoon.com