“Spring Tower”  อาคารมาตรฐานสากล ย่านราชเทวี ก่อสร้างแล้วเสร็จ พร้อมเปิดให้บริการ และเตรียมผุดอีก 2 โครงการ มูลค่ากว่า 3-4 พันล้านบาท

178

มิติหุ้น – แอสไพเรชั่น วันฯ เผยภาพรวมตลาดอาคารสำนักงานโตต่อเนื่องระยะยาว มั่นใจโครงการ Spring Tower อาคารสำนักงานให้เช่า ย่านราชเทวี ที่มีมูลค่าลงทุนถึง 2,500 ล้านบาท   โดยตอบโจทย์กลุ่มธุรกิจจากต่างชาติที่สนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทย หวังดึงให้เซ็นสัญญาเช่าพื้นที่ระยะยาว พร้อมมั่นใจรูปแบบการก่อสร้างอาคารที่ได้มาตรฐานระดับสากล เป็นการสร้าง  จุดขายที่แข็งแกร่ง และในอนาคตจ่อผุดอีก 2 โครงการบนทำเลศักยภาพ สร้างมูลค่ากว่า 3-4 พันล้านบาท

“นลินี งามเศรษฐมาศ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอร่า แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ AIRA และประธานกรรมการ บริษัท แอสไพเรชั่น วัน จำกัด ผู้ดำเนินโครงการ Spring Tower เผยถึงภาพรวมตลาดอาคารสำนักงานในปัจจุบันว่า “ยังอยู่ในช่วงขาขึ้นตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา และย่านราชเทวีกำลังจะเป็น Central Business District (CBD)ในอนาคตอีกด้วย”

โดยอาคาร Spring Tower ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกราชเทวี บนพื้นที่ทั้งหมด 2 ไร่ 3 งาน 97 ตารางวา เป็นอาคารสำนักงานให้เช่าเกรดเอ สูง 27 ชั้น ชั้น  9 – 27 เป็นพื้นที่สำนักงานให้เช่า มูลค่าการลงทุนประมาณ 2,500 ล้านบาท มุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่ม Multinational Company: MNC และกลุ่มธุรกิจขนาดกลาง-ใหญ่ในไทย ปัจจุบันอาคาร Spring Tower ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จและมีผู้เซ็นสัญญาเช่าแล้วประมาณ 60% ของพื้นที่เช่าอาคารสำนักงาน   โดยกลุ่มผู้เช่าส่วนใหญ่จะเป็นชาวไทย และชาวต่างชาติ อาทิ ญี่ปุ่น,เกาหลีใต้,สิงคโปร์ และอังกฤษ

ทำเลนี้ถือเป็นย่านเศรษฐกิจใหม่ที่พร้อมเติบโตในอนาคต อีกทั้งการออกแบบตัวอาคารจะเน้นความทันสมัยผสมผสานกับงานศิลปะ เพื่อสื่อถึงความมีเอกลักษณ์ ซึ่งเราได้รับความร่วมมือจากศิลปินระดับชาติ อาทิ อาจารย์นนทิวรรธน์ จันทนะผะลิน ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (ประติมากรรม) ที่ได้กรุณามาให้ข้อแนะนำในช่วงของการออกแบบภูมิสถาปัตย์ ซึ่งเป็นที่ น่าเสียดายอย่างยิ่งที่อาจารย์ได้ถึงแก่กรรมไปเมื่อไม่นานมานี้

และอีกหนึ่งท่าน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ไพรวัลย์ ดาเกลี้ยง สาขาประยุกตศิลปศึกษา จิตรกรไทยผู้สร้างงานศิลปะแนวเหมือนจริง ช่วยแนะนำการตกแต่งภายใน และออกแบบภาพวาดเพื่อตกแต่งภายในอาคารอีกด้วย ทำให้ตัวอาคารออกแบบมาให้เป็นมิตรกับชุมชนและสิ่งแวดล้อมมาก เพื่อให้ได้การรับรอง LEED GOLD ซึ่งเป็นมาตรฐานสิ่งแวดล้อมระดับนานาชาติ

ด้านการเดินทางมายังอาคาร ก็มีความสะดวกทั้งฝั่งถนนพญาไท และถนนเพชรบุรี เดินทางเพียง 3 นาที  จาก BTS ราชเทวี ห่างจากสถานีแอร์พอร์ตลิ้งค์ และ สยามสแควร์ เพียง 1 สถานีเท่านั้น  การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ห่างจากทางด่วนยมราชเพียง 1 กิโลเมตร อีกทั้งยังล้อมรอบด้วยทางด่วน อุรุพงษ์ เพชรบุรี และอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ รวมถึงในอนาคตจะมีสถานี MRT  สายสีส้ม อยู่ตรงบริเวณด้านหน้าโครงการ ทำให้ผู้เช่าสามารถเลี่ยงกับการเผชิญปัญหารถติดได้เป็นอย่างดี

สำหรับการก่อสร้างอาคาร Spring Tower นั้น ก็ได้ทางบริษัท แสงฟ้าก่อสร้าง จำกัด และบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ผนวกกับกลุ่ม AIRA กลุ่มสถาบันการเงินชั้นนำ ซึ่งเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้กับโครงการ ส่งผลให้บริษัทต่าง ๆ ที่เข้ามาเซ็นสัญญา ต่างเห็นศักยภาพของโครงการ เนื่องจากตั้งอยู่ในทำเลที่เหมาะสม ตัวอาคารได้มาตรฐานระดับสากล ด้วย   จุดขายที่แข็งแรงนี้เองที่ทำให้ผู้เช่าต่างชาติตัดสินใจเซ็นสัญญาเช่าระยะยาว โดยใช้พื้นที่ถึง 4 ชั้น และมีจำนวนมากกว่า 6,500 ตารางเมตรแล้ว

และเพื่อให้สัมผัสถึงความสมบูรณ์แบบที่สง่างามตั้งแต่ก้าวแรก อาคาร Spring Tower ได้ออกแบบ Lobby ให้มีความสูงโปร่งรับแสงธรรมชาติ เพื่อต้อนรับคนที่จะเข้ามาในอาคารโดยมีระบบรักษาความปลอดภัย และควบคุมการเข้าออกลิฟท์ด้วยระบบ Destination Control ซึ่งจะสามารถขึ้นลงได้เฉพาะจุดหมายปลายทางที่ระบุเท่านั้น เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ และความปลอดภัยสูงสุดแก่ผู้เช่าทุกราย อาคารเน้นการออกแบบตามหลัก Column-Free design โดยมี  ความกว้างของพื้นที่เช่าสูงสุด 16.85 เมตร ระยะความสูงของพื้นที่เช่า Floor to Floor 4.1 เมตร และ Floor to Ceiling 3 เมตร ทำให้สามารถจัดสรรพื้นที่ใช้สอยได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด รองรับ      ผู้เช่ารายใหญ่ และมีการเตรียมช่องเปิดที่พื้น (Knock out panel) ไว้ในกรณีที่ผู้เช่าต้องการเจาะช่อง สำหรับบันไดเชื่อมระหว่างชั้นภายในพื้นที่ออฟฟิศก็สามารถดำเนินการได้

นอกจากนี้ภายในอาคารประกอบไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ครบครัน อาทิ  ร้านกาแฟ Food Center ร้านสะดวกซื้อ และร้านค้าอื่น ๆ อีกมากมาย ส่วนที่ชั้น 9 มีการออกแบบพื้นที่ส่วนพิเศษด้วยเพดานสูงกว่า 7.1 เมตร สามารถรองรับธุรกิจ Fitness สำหรับคนรักสุขภาพ และยังมี Rooftop Restaurant ด้วยมุมมอง 360 องศาจากบนยอดตึก

นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนที่จะก่อสร้างเพิ่มอีก 2 โครงการ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาทำเลที่ตั้งที่เหมาะสม โดยเน้นพื้นที่ที่เดินทางสะดวก ซึ่งกลุ่มเป้าหมายหลักของอาคารดังกล่าวคือธุรกิจขนาดกลาง-ใหญ่ และผู้เช่าชาวต่างชาติที่เป็นบริษัทพันธมิตร และเครือข่ายที่ต้องการเข้ามาขยายธุรกิจในประเทศไทย โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปพื้นที่และการดีไซน์ของอาคารทั้ง 2 แห่งได้ราวไตรมาส1 ปี 2563 และคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จครบทั้ง 2 อาคารภายในระยะเวลา 3 ปีข้างหน้าหรือราวปี 2565-2566

www.mitihoon.com