มิติหุ้น-KUN พร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ วันนี้ (17 ธ.ค.62) เคาะราคา IPO ที่ 1.10 บาท โกยเงินระดมทุน 165 ล้านบาท ลุยพัฒนาโครงการบ้านจัดสรร ภายใต้แนวคิด “สุขใจอยู่บ้านชานเมือง” ส่งซิกปี 63 ผุดโครงการใหม่ 2 แห่ง มูลค่ารวม 2,172 ล้านบาท มั่นใจศักยภาพของบริษัทจะสร้างการเติบโตในอนาคต
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.วิลล่า คุณาลัย หรือ KUN โดย “นางประวีรัตน์ เทวอักษร” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า บริษัทพร้อมนำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ในวันนี้ (17 ธ.ค.62) ในหมวด “ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง” โดยใช้ชื่อย่อ “KUN” ในการซื้อขาย
โดยเม็ดเงินระดมทุนในครั้งนี้ จำนวน 165 ล้านบาท บริษัทมีแผนที่จะนำเงินไปต่อยอดเพื่อพัฒนาโครงการบ้านจัดสรร ภายใต้แนวคิด “สุขใจอยู่บ้านชานเมือง” เพื่อพัฒนาและขยายโครงการในทำเลอื่นๆ ตามแผนยุทธ์ศาสตร์ป่าล้อมเมือง ให้ครบ 4 ทิศ รอบกรุงเทพมหานคร (เหนือ,ใต้, ตะวันออก, ตะวันตก)
โกยเงินระดมทุนอัพฐานโต
ทั้งนี้บริษัทมีแผนที่จะนำเม็ดเงินระดมทุนไปพัฒนาโครงการที่อยู่ในระหว่างการดำเนินการ และโครงการในอนาคต จำนวน 2 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวม 2,172 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการคุณาลัย จอย 2 ซึ่งเป็นโครงการประเภทบ้านแฝด-บ้านเดี่ยว 2 ชั้น มูลค่าโครงการ1,500 ล้านบาท คาดว่าสามารถเปิดการขายได้ ภายในไตรมาส 2/2563 และ 2.โครงการวิลล่า วาณิช เป็นโครงการ ประเภทอาคารพาณิชย์ มูลค่าโครงการ 672 ล้านบาท อีกทั้งใช้เป็นเงินลงทุนซื้อที่ดินสำหรับการพัฒนาโครงการใหม่ รวมถึงใช้ในการชำระคืนเงินกู้ยืมระยะสั้น และจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
ด้าน “นายกอบเกียรติ บุญธีรวร” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.เอเชีย เวลท์ ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน กล่าวว่า KUN มีความเชี่ยวชาญของผู้บริหารในการทำธุรกิจพัฒนาอสังหาฯแนวราบ ย่านบางบัวทอง มากว่า 10 ปีและยังมีการกระจายความเสี่ยงไปยังทำเลใหม่ของจ.ฉะเชิงเทรา ภายใต้โครงการ
“คุณาลัยจอย ออน 314” โดยมองว่าทำเลดังกล่าวมีศักยภาพ และมีความต้องการของแหล่งที่อยู่อาศัย เช่นเดียวกับย่านบางบัวทอง ประกอบกับเขตพื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นแหล่งพื้นที่โครงการ EEC ซึ่งจากแผนการวางยุทธศาสตร์ของภาครัฐบาล เป็นตัวช่วยการันตีถึงศักยภาพการดำเนินธุรกิจได้เป็นอย่างดี
เคาะIPOที่ราคา1.10บ.
อีกทั้งมองว่าระดับราคา KUN ที่ระดับ IPO 1.10 บาทต่อหุ้นถือเป็นราคาที่เหมาะสม ซึ่งคิดจากอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) 10.78 เท่า โดยคำนวนกำไรสุทธิต่อหุ้น จากผลการดำเนินงานในช่วง 4 ไตรมาสล่าสุด (ตั้งแต่ไตรมาส4 ปี 61ถึง ไตรมาส 3 ปี 62 ) เทียบเคียงกับอัตราส่วน P/E Ratio เฉลี่ยของบริษัทใกล้เคียงที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน มีค่าเท่ากับ 11.24 เท่า
www.mitihoon.com