ขณะที่ประชาชนคนไทยและนักลงทุนยังคงลุ้นระทึกกับทิศทางเศรษฐกิจไทยในปีนี้และปีต่อ ๆ ไปจะออก “หมู่หรือจ่า” ..

เพราะแม้รัฐบาลจะงัดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ไฟกระพริบ “ชิม ช็อป ใช้” ออกไปเป็นกุรุดแล้ว แต่สามารถจะกระตุ้นได้มากน้อยแค่ไหนนั้นทุกฝ่ายรู้แก่ใจกันดี

บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นวันนี้ จึงแทบจะกล่าวได้ว่า เป็นเครื่องสะท้อนความกังวลของผู้คนที่มีต่อทิศทางเศรษฐกิจในอนาคตอันใกล้ได้อย่างชัดเจนที่สุด

แต่สำหรับธุรกิจบริหารสินทรัพย์ จัดการกับหนี้เสียในระบบทั้งหลาย ทั้งในส่วนของภาครัฐและเอกชน ดูจะยังคงเป็นธุรกิจที่ไปได้ดีและแทบจะเป็น ”โอกาสทอง” ของตลาดนี้เลยก็ว่าได้..

ล่าสุดนั้น บริษัท บริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ บสก. (BAM) ที่ผันตัวเองมาจากธุรกิจที่ตั้งขึ้นเพื่อมาสะสางบรรดาหนี้เสียของธนาคารกรุงเทพพาณิชยการ หรือ BBC ในอดีต ที่รัฐโดยกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ต้องเข้าไปอุ้มชูในห้วงวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 นั้น

วันนี้ BAM กำลังประกาศตัวเตรียมผงาดขึ้นมาเป็น AMC ชั้นแนวหน้าในภูมิภาคเอเชียเต็มตัวแล้ว ด้วยสินทรัพย์ที่มีอยู่ในมือกว่า 100,000 ล้านบาท และพอร์ตหนี้เสีย (NPA) ที่มีอยู่ในมือมากกว่า 50,000 ล้านบาท  ทั้งยังเตรียมสยายปีก ขยายกิจการด้วยการนำกิจการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อีกด้วย

โดย ”บรรยง วิเศษมงคลชัย” ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้ บสก.ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวนต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 280 ล้านหุ้น รวมกับหุ้นสามัญเดิมจำนวนไม่เกิน 1,255 ล้านหุ้น และอาจมีการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน (Green shoe) อีก 230 ล้านหุ้น รวมทั้งสิ้นจำนวนไม่เกิน 1,765 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 54.4 ของจำนวนหุ้นที่เรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ คาดว่าแผนการนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ดังกล่าวจะได้ข้อยุติภายในสิ้นปี 2562 นี้

ทั้งนี้ หลังจากผู้บริหาร บสก. ได้เดินทางไปโรดโชว์กับนักลงทุนต่างชาติทั้งสิงคโปร์ ฮ่องกง และเตรียมเดินทางไปยุโรป  อังกฤษ สหรัฐ ต่อไปนั้นได้รับรายงานว่า นักลงทุนต่างชาติสนใจแผนระดมทุนของ บสก. และมีความเข้าใจธุรกิจการบริหารสินทรัพย์ของไทย หรือ AMC มากขึ้น เพราะถือเป็นธุรกิจใหม่ที่ต่างประเทศเองยังมีน้อยมาก แต่ในไทยนั้นกำลังมีลู่ทางที่ดี   เพราะเป็นกลไกสำคัญในการบริหารจัดการสินทรัพย์ของระบบสถาบันการเงิน

จากหนี้เน่า BBC.. สู่ AMC สุดบิ๊กบิ้มในเอเชีย!

สำหรับ บสก. หรือ BAM นั้นจัดตั้งขึ้นเพื่อทำหน้าที่แก้ปัญหาสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ หรือ ”หนี้เน่า” ของธนาคารกรุงเทพพาณิชยการ (BBC) และสถาบันการเงินอื่นๆ ของประเทศที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2540 หลังจากกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินได้นำเม็ดเงินเข้าไปโอบอุ้มสถาบันการเงินที่ต้องล้มละลายเหล่านั้น จึงได้จัดตั้ง บสก.ขึ้นดูแลการจัดการกับสินทรัพย์เหล่านี้  ซึ่งตามมติคณะรัฐมนตรีเดิมนั้น ภายหลังจากการจัดการสินทรัพย์ของบ BBC แล้วเสร็จก็จะต้องยุบเลิกกิจการไปภายใน 5 ปี

“ช่วงที่จัดตั้ง บสก. หรือ BAM ขึ้นมานั้น ก็มีการลดพนักงานของบีบีซีเดิมจากที่มีอยู่ราว 4,000 คนลงจนเหลืออยู่ 1800 คนในช่วงแรกที่ บสก.เริ่มดำเนินงาน ก่อนจะทยอยเลิกจ้างพนักงานเหล่านั้นปีละราว 200 คนตามภารกิจที่หมดลงจากการขายสินทรัพย์ที่มีอยู่ออกไป กระทั่งในปี 2545 เหลือพนักงานในเวลานั้นอยู่ราว 800 คน ซึ่งในแต่ละปีนั้น ”พนักงานก็ได้แต่ลุ้นว่าได้ซองอะไร หากเป็นซองหนา ก็เป็นอันว่าหมดสัญญาจ้าง” ..”บรรยง วิเศษมงคลชัย” ประธาน บสก. ได้เล่าย้อนรอยเส้นทางของ บสก.ในอดีตให้บรรดาเพื่อนพ้องน้องพี่สื่อฟัง

และว่าหลังจากที่ตนเองเข้ามารับผิดชอบบริหาร บสก. ก็ได้ร้องขอต่อทางการและแบงก์ชาติ เพื่อขอให้ บสก.ได้ทำหน้าที่ต่อ เนื่องจากประสบการณ์ของเราในการบริหารหนี้ NPA นั้นมีอยู่มาก เราน่าจะสามารถบริหารหนี้อื่นนอกเหนือจากของ BBC ที่มีอยู่ได้ ซึ่งเมื่อแบงก์ชาติและรัฐบาลไฟเขียวให้ บสก.สามารถรับซื้อหนี้ NPA อื่น เข้ามาในพอร์ตได้ เราก็เริ่มขยายบทบาทในการบริหารจัดการหนี้เสียในมือ

จนกระทั่งกล่าวได้ว่า ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา BAM ได้ทำหน้าที่แก้ปัญหาสินทรัพย์ด้อยคุณภาพของประเทศ โดยสามารถรับชำระจากการปรับโครงสร้างหนี้และจำหน่ายสินทรัพย์มากกว่า 215,000 ล้านบาท และสามารถปรับโครงสร้างหนี้ให้กับลูกค้าได้กว่า 111,000 ราย คิดเป็นภาระเงินต้น 217,000 ล้านบาท  และวันนี้เรามีกองหนี้ที่ซื้อเข้ามาบริหารรวมแล้วกว่า 100 กอง มีสินทรัพย์ที่อยู่ในมือไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาท จากมูลหนี้ NPA 400,000 ล้านบาท และมีพอร์ต NPA ในมือกว่า 50,000 ล้านบาท

ในส่วนของพนักงาน บสก.จากที่เคยเหลืออยู่ 800 ราย วันนี้ได้ทยอยจ้างเพิ่มเข้ามามากกว่า 1,300 คนเข้าไปแล้ว เรามีเจ้าหน้าที่ที่มีความชำนาญเกือบทุกด้าน มีประสบการณ์ในการบริหารจัดการหนี้เสียและสร้างมูลค่าสินทรัพย์ด้อยคุณภาพเหล่านั้นให้กลับมาเดินได้ สามารถจ้างงานใหม่ ลดหนี้ในระบบได้ และทำให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้จำนวนมาก

ขอเป็น “BAD Bank” ในระบบ!

สำหรับเป้าหมายของการระดมทุนของ BAM นั้น เพื่อเพิ่มช่องทางการระดมทุนจากเดิมที่พึงพาตลาดเงินเป็นหลัก มาเป็นการระดมทุนจากตลาดทุนบ้าง โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนนั้นนอกจากจะนำไปซื้อหนี้เสีย NPA ใหม่เข้ามาในพอร์ตแล้ว ยังจะมีส่วนในการขยายบทบาทของ BAM ในการฟื้นฟูธุรกิจในระบบอีกด้วย เพราะการบริหารพอร์ตหนี้เสียของแบมนั้น เราไม่ได้มุ่งแต่ยึดทรัพย์สิน ยึดหลักทรัพย์ของลูกหนี้มาขาย แต่เราจะเข้าไปจัดการสร้างมูลค่าสินทรัพย์เหล่านั้น เป็นต้นว่า Renovate ที่ดิน อาคารเหล่านั้นให้มีมูลค่าขึ้นมาเพื่อให้ขายได้ง่าย

“บสก.ไม่ใช่ทำหน้าที่แค่นำหลักประกันหรือสินทรัพย์ค้ำประกันที่ถูกยึดหรือถูกขายออกมาไปขายทอดตลาด เราต้องการเป็น BAD Bank ในระบบสถาบันการเงินที่จะรองรับวิกฤติเศรษฐกิจในอนาคตที่นอกจากจะมี Good Bank โดยทั่วไปแล้วยังมี Bad Bank ที่จะดูแลหนี้เสียดูแลระบบกันเองได้ โดยที่รัฐไม่ต้องไปตั้งองค์กรใหม่หากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจขึ้นมาในอนาคต จึงต้องการผลักดันให้กระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯเพื่อความกังวลเรื่องการบริหารหนี้ในระบบ” 

สำหรับแนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของไทยนั้น “บรรยง” กล่าวว่า หลาย Sector ยังคงเติบโตได้ดี ไม่ว่าจะเป็นตลาดคอนโดมิเนียม และบ้านแนวราบ อย่างไรก็ตามในส่วนของ บสก. หรือ BAM นั้น ไม่ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์หรือเศรษฐกิจโดยรวมจะเป็นอย่างไร เรายังคงมีลู่ทางในการทำตลาดและโอกาสอยู่เสมอ

“แม้หลายคนจะมองว่าเศรษฐกิจไม่ดี มีแนวโน้มหนี้เสียเกิดขึ้น ก็เป็นโอกาสของ BAM ที่จะขยายพอร์ตซื้อหนี้ NPA เข้ามาเพื่อหาทางช่วยฟื้นฟูลูกหนี้เหล่านั้น แต่หากเศรษฐกิจดีขึ้นมา ตลาดอสังหาริมทรัพย์ดีขึ้นมาก็เป็นโอกาสของ BAM ในการขาย และสร้างรายได้รวมทั้งได้รับการชำระหนี้ที่รวดเร็วขึ้นมา ในขณะที่ด้วยประสบการณ์ของเราตลอดระยะ 20 ปีที่ผ่านมานั้น เราเชื่อมั่นว่าแม้จะเผชิญคู่แข่ง AMC มากมายในตลาด 20-30 ราย แต่ด้วยประสบการณ์ของพนักงานเจ้าหน้าที่และสาขาที่เรามีอยู่ตลอดจนความไว้เนื้อเชื่อใจที่ภาครัฐมอบโอกาสให้แก่เรานั้น เราไม่เป็นรองใครในภูมภาคนี้แน่”  

จับตานับถอยหลัง BAM จ่อผงาดในตลาดหลักทรัพย์ฯ ปลายปีนี้!

โดย เนตรทิพย์กระพริบข่าวร้อน

ที่มา :http://www.natethip.com/news.php?id=1259

www.mitihoon.com