จากเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน Sustainable Development Goals (SDGs) 17 ข้อ ที่องค์การสหประชาชาติได้ประกาศเป็นข้อกำหนดในการยกระดับศักยภาพความยั่งยืนทั่วโลก อันตอบสนองผลประโยชน์ทั้งภาคธุรกิจ คน และสิ่งแวดล้อมร่วมกัน กลุ่มทรู ในฐานะผู้นำด้านดิจิทัล ไลฟ์สไตล์ ที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม จึงมุ่งมั่นนำศักยภาพด้านเทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคมทันสมัย มาสร้างนวัตกรรมที่แตกต่าง เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนของคนไทย โดยดำเนินงานด้านความยั่งยืนที่ครอบคลุม 3 มิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ตามยุทธศาสตร์ภายใต้กรอบ 3 H’s ได้แก่ Heart – มุ่งมั่นทำธุรกิจด้วยใจที่ยั่งยืน Health – มุ่งมั่นสร้างสังคมที่ยั่งยืน และ Home – มุ่งมั่นเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ซึ่งบริษัทฯ ได้ยึดเป็นหลักปฏิบัติมาโดยตลอด อันเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่นักลงทุน นักวิเคราะห์ทางการเงิน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ ทั่วโลกให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการตัดสินใจลงทุน ซึ่ง 5 โครงการที่โดดเด่นเป็นรูปธรรมชัดเจนของทรู จำแนกตามกรอบ Heart – Health – Home มีดังนี้
Heart – มุ่งมั่นทำธุรกิจด้วยใจที่ยั่งยืน
กลุ่มทรู ดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบบนพื้นฐานการกำกับกิจการที่ดี โปร่งใส และเป็นธรรม โดยมีกิจกรรมที่โดดเด่น คือ
โครงการที่ 1 – การร่วมสนับสนุนการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชันกับภาครัฐและภาคประชาสังคม
กลุ่มทรู ร่วมกับมูลนิธิต่อต้านการทุจริตและภาคีสมาชิก จัดโครงการต้านทุจริต ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยเชิญชวนนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไป แสดงความคิดสร้างสรรค์ ประชันความคิดต้าน
โกง ร่วมทำกิจกรรมต่อต้านการทุจริต ได้แก่
• โครงการประกวดเพลง “ช่อสะอาดต้านทุจริต” ประจำปี 2560
• โครงการประกวดมิวสิควิดีโอ “ช่อสะอาดต้านทุจริต” ประจำปี 2561
• โครงการค่ายเยาวชนช่อสะอาดต้านทุจริต ประจำปี 2562
Health – มุ่งมั่นสร้างสังคมที่ยั่งยืน
กลุ่มทรู นำเสนอและสร้างสรรค์คุณค่าดีๆ เพื่อพัฒนาสุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดีของคนในสังคมผ่านโครงการดังนี้ โครงการที่ 2 – การพัฒนาศักยภาพและคุณภาพชีวิตกลุ่มคนเปราะบาง
กล่มทรู เชื่อมั่นในศักยภาพของมนุษย์ทุกคนว่าสามารถพัฒนาได้หากได้รับการส่งเสริมที่เหมาะสม ภายใต้แนวคิด Creating a Better Life for Vulnerable Groups เพื่อให้พึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการช่วยเหลือผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษา หรือกลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มทรู พร้อมที่จะนำนวัตกรรมเทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวก เข้ามาช่วยเหลือพัฒนาขีดความสามารถและสร้างโอกาส สร้างอาชีพให้บุคคลกลุ่มดังกล่าว ซึ่งที่ผ่านมา ได้พัฒนาคุณภาพชีวิตครอบคลุมกลุ่มเปราะบางกว่า 6,253 คน
โครงการที่โดดเด่นคือ โครงการพัฒนาศักยภาพและคุณภาพชีวิตบุคคลออทิสติกที่ส่งเสริมศักยภาพและพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของบุคคลออทิสติกที่มีมากกว่า 1 ล้านคนในประเทศไทย ทั้งการสร้างสรรค์แอปพลิเคชัน True Autistic ผลงานนวัตกรรมของกลุ่มทรู เพื่อใช้เป็นเครื่องมือเสริมสร้างทักษะให้แก่เด็กออทิสติก รวมถึงการร่วมกับมูลนิธิออทิสติกไทย จัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมเพื่อการทำงานบุคคลออทิสติก (CP-True Autistic Thai Foundation Vocational Training Center) ในด้านคอมพิวเตอร์การพิมพ์ การทำธุรกิจร้านกาแฟ และงานสำนักงาน เพื่อให้บุคคลออทิสติกมีอาชีพ มีรายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัว พร้อมบรรจุเป็นพนักงานทรูจำนวนหนึ่งด้วย นอกจากนี้ ยังร่วมก่อตั้งธุรกิจเพื่อสังคมภายใต้แบรนด์ ArtStory by Autistic Thai ผลิตสินค้าประเภทต่างๆ เช่น พิมพ์นามบัตร สมุดโน้ต งานสกรีน และของที่ระลึก วางจำหน่ายตามช่องทางในเครือ มูลค่ารวมกว่า 4.97 ล้านบาท และในปี 2562 สามารถสร้างรายได้ให้ครอบครัวบุคคลออทิสติกกว่า 50 ครัวเรือน คิดเป็นมูลค่าทางการเงินกว่า 250,000 บาท
โครงการที่ 3 – โครงการสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์ อีดี – CONNEXT ED
โครงการสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์ อีดี – CONNEXT ED เป็นการผนึกกำลังสร้างวัฒนธรรมการมีส่วนร่วมด้านการศึกษาของ 3 ภาคส่วนหลัก ทั้งภาครัฐ ภาคประชาสังคม และภาคเอกชน เพื่อยกระดับการศึกษาไทย ให้พัฒนาและเกิดความยั่งยืนอย่างแท้จริง ซึ่งโครงการ CONNEXT ED ก่อตั้งในปี 2559 เป็นการรวมตัวกันของ 12 องค์กรเอกชนชั้นนำ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ กลุ่มเซ็นทรัล บมจ.ซีพี ออลล์ บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร บริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด กลุ่มปตท. ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เอสซีจี บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป และเครือเจริญโภคภัณฑ์ / บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น และได้ขยายเครือข่ายพันธมิตรใหม่ในระยะที่ 2 อีก 21 องค์กร รวมเป็น 33 องค์กร
โดยดำเนินงานภายใต้ 5 ยุทธศาสตร์หลักทั้งด้านงบประมาณ องค์ความรู้เฉพาะทาง และส่งผู้นำรุ่นใหม่ (School Partners) ซึ่งเป็นพนักงานจิตอาสาจากแต่ละองค์กร พร้อมบุคลากรด้านไอซีที (ICT Talents) เข้าร่วมปฏิบัติภารกิจ ในการร่วมผลักดันยุทธศาสตร์การดำเนินงานสู่โรงเรียนประชารัฐกว่า 4,700 แห่งทั่วประเทศตลอดปีการศึกษานี้
Home – มุ่งมั่นเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน
กลุ่มทรู ร่วมสร้างจิตสำนึกรักษ์ธรรมชาติ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สร้างสังคมให้น่าอยู่ผ่านนวัตกรรมดังนี้
โครงการที่ 4 – แอปพลิเคชัน “We Grow”
กลไกสนับสนุนการปลูกต้นไม้อย่างยั่งยืนในสังคมยุคดิจิทัล โดยมีคุณสมบัติเด่นที่ใช้งานง่าย หลากหลายฟังก์ชั่น ทั้งปลูกแล้วแชร์ข้อมูลผ่านแอป ติดตามอัพเดทการเจริญเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ติดตามภาพรวมสถิติการปลูกต้นไม้ สแกน QR Code พร้อมพิมพ์นำไปติดที่ต้นไม้เพื่อเผยแพร่ความรู้ข้อมูลต้นไม้ แลกเปลี่ยนข้อมูลเชื่อมโยงเครือข่ายสังคมผู้ปลูกต้นไม้ครั้งแรกของโลก ตลอดจนเป็นคลังข้อมูลความรู้เรื่องต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุด ทั้งต้นไม้หายาก
วิธีการปลูก การดูแลรักษา รวมทั้งเชื่อมโยงการปลูกต้นไม้กับการคำนวณปริมาณการดูดซับก๊าซคาร์บอนที่เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดโลกร้อน โดยรองรับการใช้งานถึง 4 ภาษา ทั้งภาษาไทย อังกฤษ เยอรมัน และจีน สามารถใช้งานได้ผ่านสมาร์ท ดีไวซ์ ต่างๆ ซึ่งเปิดให้ดาวน์โหลดโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ปัจจุบันมีการปลูกต้นไม้ผ่านแอป “We Grow” แล้วทั้งสิ้น 4,345,156 ต้น มีปริมาณดูดซับคาร์บอน 180,244 ตัน และโพสต์ข้อมูลผ่านเครือข่ายสีเขียวแล้วกว่า 100,000 โพสต์
โครงการที่ 5 – ระบบเฝ้าระวังช้างป่า “Elephant Smart Early Warning System”
จากปัญหาช้างป่าในอำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ บุกทำลายพืชไร่เกษตรกรเสียหาย สร้างความสูญเสีย และความขัดแย้งรุนแรงระหว่างคนกับช้าง เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และ WWF ประเทศไทยร่วมกับกลุ่มทรู ดำเนินโครงการ เฝ้าระวังช้างป่าด้วยระบบเตือนภัยล่วงหน้า
หรือ Elephant Smart Early Warning System ที่ใช้ศักยภาพของ เทคโนโลยีเครือข่ายสื่อสารไร้สายความเร็วสูงจากทรูมูฟ เอช มาช่วยเสริมประสิทธิภาพการเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่าที่ออกมาหากินนอกพื้นที่ เพื่อลดผลกระทบความเสียหายต่อทั้งชีวิตและทรัพย์สินของชุมชน ระบบเฝ้าระวังช้างป่า โดยติดตั้งกล้อง Camera Trap พร้อม SIM และ SD Card บริเวณด่านช้างออกรวม 25 ด่าน ที่สามารถบันทึกภาพและส่งสัญญาณไปยังระบบ Cloud ศูนย์เฝ้าระวังช้างป่าได้ทันทีที่มีช้างป่าเดินผ่านกล้อง จากนั้นเมื่อเจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ รับทราบ ก็จะส่งสัญญาณแจ้งเตือนและพิกัดที่ช้างอยู่ไปยังเจ้าหน้าที่ ลาดตระเวนเพื่อเข้าไปดำเนินการผลักดันช้างกลับเข้าป่าก่อนที่จะเข้าถึงพื้นที่ของชุมชน ซึ่งมีเกษตรกรที่ได้รับประโยชน์จากโครงการนี้กว่า 300 คน
ทั้ง 5 ความยั่งยืนนี้ สะท้อนความตั้งใจของกลุ่มทรู ในการนำศักยภาพนวัตกรรมเทคโนโลยีสื่อสารทางดิจิทัล มาร่วมสร้างคุณค่าด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยกลุ่มทรู ยังคงมุ่งมั่นสานต่อความตั้งใจนี้ เพื่อให้เกิดการพัฒนาสู่ความยั่งยืนไปด้วยกันในทุกระดับต่อไป