มิติหุ้น – นางอลิซ พอตเตอร์ ประธานกรรมการและผู้จัดการใหญ่ บริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด เปิดเผยว่า คาลเท็กซ์มุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์น้ำมันและบริการที่ยอดเยี่ยม โดยพยายามที่จะเติมเต็มประสบการณ์แห่งความสุขในทุกเส้นทางให้กับลูกค้า การเป็นเครือข่ายสถานีบริการน้ำมันแบรนด์แรกที่รับบริการชำระเงินผ่านบัตรคอนแทคเลสทั้งเครือข่ายทั่วประเทศ ถือเป็นก้าวย่างที่สำคัญของคาลเท็กซ์ ปัจจุบันผู้บริโภคในยุคดิจิทัลมีแนวโน้มที่จะพกเงินสดน้อยลงแต่นิยมที่จะชำระเงินด้วยบัตรเครดิตในการเติมน้ำมันที่สถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์เพิ่มมากขึ้น
“เรามั่นใจว่าลูกค้าจะให้การตอบรับการชำระเงินผ่านบัตรคอนแทคเลส ซึ่งจะช่วยให้ได้รับบริการที่สะดวกและรวดเร็วขึ้น มีความปลอดภัย และลดขั้นตอนในการชำระเงิน รวมถึงทำให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งการนำเสนอบริการชำระเงินผ่านบัตรคอนแทคเลส ที่สถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ โดยความร่วมมือกับวีซ่า ถือเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ “Smart Platform” ภายใต้วิสัยทัศน์ “Smart Value for All” เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืน”
“การชำระเงินผ่านบัตรคอนแทคเลสช่วยให้ผู้ถือบัตรที่ออกโดยธนาคารต่างๆ สามารถ “แตะ เพื่อ จ่าย” ด้วยบัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือบัตรเติมเงินของวีซ่าได้ ซึ่งการชำระเงินในรูปแบบนี้จะสามารถให้ผู้ถือบัตรชำระเงินโดยที่ไม่ต้องปล่อยบัตรออกจากมือระหว่างการทำธุรกรรม โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป ลูกค้าจะไม่ต้องเซ็นชื่อเพื่อยืนยันการทำธุรกรรมสำหรับรายการที่ต่ำกว่าหรือเท่ากับ 1,500 บาท”
นายสุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย กล่าวว่า วีซ่า และคาลเท็กซ์ มีวิสัยทัศน์ร่วมกันในการทำให้การชำระเงินในสถานีบริการน้ำมันเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นสำหรับผู้บริโภค ด้วยเหตุนี้เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะมอบประสบการณ์การชำระเงินผ่านบัตรคอนแทคเลสของวีซ่าในสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ทั่วประเทศไทยเป็นครั้งแรก โดยหวังว่าความร่วมมือระหว่างทั้งสององค์กรในครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างการรับรู้เกี่ยวกับการชำระเงินผ่านบัตรคอนแทคเลสในกลุ่มผู้บริโภคไปพร้อมๆ กับขยายจุดรับบัตรคอนแทคเลสทั่วประเทศไทย
“หนึ่งในเป้าหมายหลักของวีซ่า คือการเพิ่มจุดชำระเงินสำหรับบัตรคอนแทคเลสในประเทศไทย เพื่อให้คนไทยสามารถ “แตะ เพื่อ จ่าย” ได้ด้วยบัตรวีซ่าในมือ เราเชื่อว่าคนไทยจะเปิดรับ และรับรู้ถึงข้อดีต่างๆ ที่มาพร้อมกับการชำระเงินในรูปแบบคอนแทคเลสนี้ และเรายังคงเดินหน้าเป็นพันธมิตรกับร้านค้าต่างๆ ในหลายอุตสาหกรรมเพื่อเพิ่มช่องทางการชำระเงินในรูปแบบดิจิทัล และสนับสนุนประเทศไทยในการก้าวเข้าสู่สังคมไร้เงินสด”