KKP โกยค่าฟีเต็มกระเป๋า -กำไรQ4พุ่ง12%

227

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ธนาคารเกียรตินาคิน หรือ KKP โดย “บล.เคทีบี(ประเทศไทย)” เปิดเผยว่า ฝ่ายวิจัยแนะนำ “เพิ่มน้ำหนัก” เข้าลงทุนในหุ้น KKP คาดไตรมาส 4/62 อยู่ที่ 1.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ทรงตัวจากไตรมาสก่อน

โดยการเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มาจากรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิที่เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการรับรู้รายได้ค่าธรรมเนียมจากดีล IB จาก IPO หุ้น AWC และการทำดีลควบรวม TMB กับ TCAP ประกอบกับ สินเชื่อที่เติบโตได้ที่ 0.3% จากไตรมาสก่อน  หรือ 4.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากสินเชื่อรายใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับผู้พัฒนาอสังหาฯ และสินเชื่อรายย่อยในส่วนของสินเชื่อบุคคลและบ้าน แต่คาดว่า NIM จะลดลงมาอยู่ที่ 4.12% จาก 4.37% ในไตรมาส 4/61 เพราะมีสัดส่วนของสินเชื่อรายใหญ่เพิ่มขึ้น

ส่วนกำไรที่ทรงตัว จากไตรมาสก่อน เพราะเราคาดว่าจะมีการตั้งสำรองฯที่รวมผลขาดทุนรถยึดเพิ่มขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจที่แย่ลงและเป็นตาม seasonal ที่จะเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปี โดยเราคาดว่าจะตั้ง credit cost ที่ 179bps จากไตรมาสก่อนที่ 125bps ส่วน NPL คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 4.30% จากไตรมาสก่อนที่ 4.20%

โดยฝ่ายวิจัยปรับประมาณการกำไรสุทธิในปี 62-63ลง 8.4-10.2% จากการปรับการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมลงในปี 62ลงเหลือ 4.1% จาก 9.6% และในปี 63 ลงเหลือ 4.8% จาก 9.2% โดยเรา conservative มากขึ้นเพราะแนวโน้มการหารายได้ค่าธรรมเนียมที่ทำได้ยากมากขึ้น และมีการปล่อยกู้สินเชื่อเช่าซื้อที่ชะลอตัวลง นอกจากนี้ เรามีการปรับการเติบโตของสินเชื่อในปี 63ลงเหลือ 4% YoY จาก 5% YoY ตามยอดขายรถยนต์ที่เราคาดว่าจะได้ทำดีสุดแค่ทรงตัว
ดังนั้นเรามีการ rollover ราคาเป้าหมายไปเป็นปี63 ได้ที่ 74 บาท อิง PBV ที่ 1.35x (+1.0SD above 5-yr average PBV) ลดลงจากเดิมที่ 77.00 บาท อิง PBV ที่ 1.5x (+1.25SD above 5-yr average PBV) โดยจะมี upside เพิ่มเติมจากรายได้ค่าธรรมเนียมที่มีโอกาสมากกว่าคาด โดยเฉพาะจาก IB fee แต่มีความเสี่ยงจากกำไรจากการลงทุนโดยตรง ซึ่งหากตลาดหุ้นมีความผันผวนน้อยจะทำให้ได้กำไรน้อยกว่าคาดได้

www.mitihoon.com