OSP ส่องกำไรหลักปีนี้ยังโตแกร่ง โบรกฯ เคาะเป้า “ซื้อ” 48 บ.

501

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.โอสถสภา หรือ OSP ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค โดยมีกลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มบำรุงกำลัง โดยนักวิเคราะห์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) เริ่มต้นวิเคราะห์ด้วยคำแนะนำ “ซื้อ” ประเมินราคาพื้นฐานไว้ที่ 48.00 บาท ด้วยวิธี DCF ราคาปิดปัจจุบันมีส่วนเพิ่มได้อีก 19% คาดการณ์อัตราการเติบโตกำไรหลักปีนี้และปี 64 แข็งแกร่งเป็น 15% และ 16% ตามลำดับ ขณะที่ภาระการลงทุนที่สูงใกล้จบลง แม้ P/E ปี 64 สูงเป็น 29.1 เท่า สูงกว่าหลักทรัพย์กลุ่มเครื่องดื่ม (Peers) แต่ถือว่าเป็นการสะท้อนแนวโน้มอัตราการเติบโตกำไรที่แข็งแกร่ง การเป็นผู้นำตลาดของสินค้า ทีมผู้บริหารมีความสามารถสูง และฐานะการเงินที่ดีมากเป็นเงินสดสุทธิ (net cash balance) จึงสมควรแล้วที่จะมีส่วนเพิ่ม (Premium) เหนือกลุ่ม

ทั้งนี้ OSP ถือเป็นผู้นำตลาดสินค้าอุปโภค บริโภคในไทย ที่จัดตั้งกิจการขึ้นมาอย่างยาวนานนับศตวรรษ สินค้าเน้นเป็นเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ มีส่วนครองตลาดเครื่องดื่มสูงถึง 53.5% ด้วนแบรนด์ที่เป็นเรือธงคือ M-150 มีส่วนครองตลาดถึง 37.4% ด้านสินค้าที่ใช้ส่วนบุคคลก็มีส่วนครองตลาดที่สูง สำหรับแบรนด์ที่เด่นคือ Babi Mild สินค้าบริษัทได้รับความนิยมสูงมาอย่างยาวนาน เพราะการตั้งราคาที่จับต้องได้

ขณะที่มีจุดเด่นคือ มีส่วนครองตลาดสูงสุดใน Segment ต่างๆของสินค้าอุปโภค บริโภค ทั้งไทยและเมียนมาร์ ซึ่งยอดขายต่างประเทศเป็นสัดส่วนราว 16% จากยอดขายทั้งหมด รวมทั้งจะมีการขยายไปประเทศอื่นๆ ในแถบเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งมีโอกาสทางธุรกิจอีกมาก เช่น ลาว กัมพูชา อินโดนีเซียและเวียดนาม แนวโน้มผลการดำเนินงานเติบโตได้อย่างสม่ำเสมอ แรงหนุนนำมาจากผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เจาะตลาดใหม่ๆ และปรับอัตรากำไรที่ได้รับให้มากขึ้น ด้วยการประหยัดต้นทุนและใช้นวัตกรรมใหม่ๆ รวมทั้งการมี Facilities ใหม่ๆ

ด้านการผลิตทั้งในประเทศและต่างประเทศ ช่วยเพิ่มให้ยอดขายเติบโตดี และเพิ่มกำไร ทั้งนี้การมีสินค้าทั้งสองประเภท และมีหลายแบรนด์ ช่วยกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจได้เป็นอย่างดี แบรนด์เครื่องดื่มดังอื่นๆ เช่น ลิโพวิตันดี ฉลาม Peptien C-Vitt และ Calpis เป็นต้น ส่วนสินค้าส่วนบุคคล เช่น Twelve Plus และ Exit เป็นต้น

www.mitihoon.com