ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ (KTBST SEC) เปิดเผยว่า สัปดาห์นี้ (6-10 ม.ค.63) ประเด็นสำคัญที่ที่ทั่วโลกจับตามองการเรื่องความครึงเครียดตะวันออกกลางหลังประธานาธิบดีทรัมป์ สั่งโจมตีขบวนรถของนายพลกัสซิม โซเลมานี ผู้นำทางทหารของอิหร่าน
ส่งผลให้เกิดความกังวลต่อเสถียรภาพในตะวันออกกลาง และกดดันราคาน้ำมันดิบสูงขึ้นหลังมีการคาดการณ์ว่าหากอิหร่านจะมีการตอบโต้สหรัฐฯ มีแนวโน้มอาจดันราคาน้ำมันมันดิบ Brent ให้ขึ้นไปแตะระดับ 80 เหรียญฯได้ ซึ่งจะกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของโลกที่เปราะบางอยู่แล้วในขณะนี้ ด้วยปัจจัยดังกล่าวเป็นเหตุให้ตลาดหุ้นหลายแห่งปรับตัวในวันศุกร์ที่ผ่านมา หากดังนั้นสัปดาห์นี้จึงต้องจับตาดูสถานการณ์ดังกล่าว หากอิหร่านมีการตอบโต้ขึ้นจริงก็จะเป็นลบต่อตลาดหุ้น แต่จะเป็นผลบวกกับราคาน้ำมันและทองคำซึ่งปรับตัวขึ้นทันทีหลังเกิดความตรึ่งเครียดดังกล่าว
อย่างไรก็ตามตลาดยังมีปัจจัยบวกในเรื่องการทำข้อตกลงการค้าสหรัฐฯกับจีนในวันที่ 15 ม.ค.นี้ จึงคาดว่าดัชนีฯอาจปรับตัวลงไม่มากนัก
สำหรับปัจจัยในประเทศ ที่สำคัญ คือ การประชุมสภาฯเพื่อผ่านร่างงบประมาณฯวาระ 2,3 ในวันที่ 8-9 ม.ค. นี้เบื้องต้นจะเป็นการประเมินเสียงของฝั่งรัฐบาลว่าจะเพิ่มขึ้นขนาดไหน หากเพิ่มขึ้นจะเป็นผลดดีต่อเสถียรภาพของรัฐบาล KTBST เชื่อว่าเสียงรัฐบาลที่มากขึ้นมีผลบวกต่อตลาดหุ้นโดยตรง และเดือน ก.พ.เป็นต้นไป งบประมาณที่รอการนำมาใช้ จำนวน 3.2 ล้านล้านบาท จะเป็นปัจจัยหนุนด้านการลงทุนในโครงการต่างๆด้วย
ทั้งนี้ การลงทุนในสัปดาห์นี้ KTBST ประเมินกรอบดัชนีฯที่ 1,585-1,620 จุด สถานการณ์ของตลาดถูกกระทบด้วยสถานการณ์ความรุนแรงในอิรัค ทำให้ดัชนีลงมาต่ำกว่า 1,600 จุด แต่การปรับตัวลงของดัชนียังขึ้นกับการตอบโต้ของอิหร่าน โดยในเชิงกลยุทธ์ เรามองว่าสถานการณ์อิหร่าน สหรัฐฯ จะไม่ยืดเยื้อมากหรือไม่ทำให้ดัชนีฯลงแรง KTBST แนะนำลงทุนให้ “ถือ” ต่อและเป็นโอกาสในการเข้าซื้อหุ้นที่มีความน่าสนใจมากขึ้นในเรื่องผลตอบแทนด้านเงินปันผล รวมไปถึงหุ้นที่มีพื้นฐานดีอิงทิศทางตลาด โดยหุ้นแนะนำสัปดาห์นี้ ประกอบด้วย CPF, OSP, GULF, SPALI, CPNREIT และ AU
www.mitihoon.com