YGG มั่นใจประเดิมเทรดตัวแรกปี 63 ชูจุดเด่นธุรกิจเติบโตสูง-หุ้นปันผล

136

มิติหุ้น – “อิ๊กดราซิล กรุ๊ป” (YGG) ผู้นำธุรกิจดิจิตอลคอนเทนต์เบอร์หนึ่งของเมืองไทย และสตาร์ทอัพรายแรกที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ-แบงก์ออมสิน เข้าร่วมลงทุน ส่งถึงเป้าหมายเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ maiได้สำเร็จ “ธนัช จุวิวัฒน์”มั่นใจประเดิมเข้าเทรดวันแรกปี 63 สร้างผลตอบแทนสุดประทับใจ และยังเป็นหุ้นปันผลสูง เดินหน้าคว้าบิ๊กโปรเจคทั้งในและต่างประเทศเพียบ หนุนรายได้โต 15-20% ตามแผน จากปัจจุบันมีงานในมือรอรับรู้รายได้กว่า 57 ล้านบาท

นายพายุพัด มหาผล กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย หุ้นสามัญเพิ่มทุน บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (YGG) เปิดเผยว่า YGG ถือเป็นหุ้นธุรกิจสตาร์ทอัพน้องใหม่ไฟแรงที่ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างดีเยี่ยม เพราะนอกเหนือจากจุดเด่นความเป็นผู้นำธุรกิจดิจิตอลคอนเทนต์ เบอร์หนึ่งของเมืองไทย ที่ได้รับการยอมรับจากลูกค้ายักษ์ใหญ่ทั่วโลกแล้ว หลังการเข้าระดมทุนและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ทำให้มีศักยภาพในการเข้ารับงานทั้งในและต่างประเทศ ที่มีมูลค่าสูงขึ้น ผลักดันรายได้และกำไรเติบโตอย่างแข็งแกร่ง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต
นอกจากนี้ การกำหนดราคาไอพีโอในระดับราคาที่เหมาะสมอยู่ที่ 5 บาท/หุ้น ถือเป็นอีกปัจจัยหนุนที่สำคัญ อีกทั้ง YGG ยังเป็นหุ้นสตาร์ทอัพตัวแรกที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และธนาคารออมสิน เข้าร่วมลงทุนผ่านกองทุนเอสเอ็มอี ไพรเวท อิควิตี้ ทรัสต์ ฟันด์ ในสัดส่วน 9% และถือเป็นบริษัทฯแรกที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ถือเป็นอีกหนึ่งแรงดึงดูดที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน
ทั้งนี้ YGG เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) จำนวน 45 ล้านหุ้น ในราคา 5 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงิน 225 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 25-27 ธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา และเตรียมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 7 มกราคม 2563 ซึ่งถือเป็นตัวแรกของปี อยู่ในกลุ่ม service   

ขณะที่นายธนัช จุวิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (YGG) กล่าวว่า บริษัทฯเชื่อมั่นว่าหุ้น YGG ที่มีกำหนดซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 7 มกราคม 2563 นี้ จะสามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้ถือหุ้นและนักลงทุน เนื่องจากมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ในฐานะผู้นำธุรกิจดิจิตอลคอนเทนต์เบอร์หนึ่งของเมืองไทยที่ได้รับการยอมรับจากลูกค้าที่มีชื่อเสียงในระดับโลก โดยปัจจุบันมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) กว่า 57 ล้านบาท และเตรียมเข้ารับโปรเจคใหม่เป็นจำนวนมาก ในปี 2563

“การเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ในครั้งนี้ ถือเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญทั้งในแง่ของความเชื่อมั่นในแบรนด์ และฐานะทางการเงินที่มีความแข็งแกร่งมากขึ้น พร้อมรับงานใหม่ที่มีมูลค่าสูงขึ้น ทั้งในและต่างประเทศ โดยบริษัทฯมีแผนนำเงินไปใช้ขยายอาคารสำนักงานแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ และลงทุนจัดตั้งสำนักงานตัวแทนที่ประเทศแคนาดา เพื่อขยายขอบเขตการให้บริการลูกค้าในภูมิภาคเอเชีย และอเมริกาเหนือ เพิ่มโอกาสในการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต”

ประธานกรรมการบริหาร YGG กล่าวอีกว่า บริษัทฯวางเป้าหมายรายได้ในปี 2563 เติบโต 15-20% เทียบกับปีที่ผ่านมา ส่วนเป้าหมายระยะยาวบริษัทฯต้องการก้าวสู่ความเป็นผู้นำด้านการให้บริการด้านออกแบบงานแอนิเมชั่น โฆษณา ภาพยนตร์ และเกมในระดับโลก ซึ่งที่ผ่านมาก็สามารถทำได้ดี เพราะมีบริษัทใหญ่ๆ รู้จัก YGG มากขึ้น ทั้งในจีน ญี่ปุ่น สหรัฐ โดยปัจจุบันบริษัทฯมีพนักงานกว่า 200 คน ที่มีความรู้ความสามารถ ระดับมาตรฐานสากล โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2559-2561) บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 28.14 ล้านบาท 14.02 ล้านบาท และ 21.09 ล้านบาทตามลำดับ ขณะที่งวด 9 เดือนแรกของปี 2562 มีกำไรสุทธิ 41.31 ล้านบาท

“ YGG “ ถือเป็นหุ้นที่มีอัตราการเติบโตของธุรกิจสูง เพราะเป็นธุรกิจที่อยู่ในเทรนด์ของตลาดโลก ขณะเดียวกันก็จัดเป็นหุ้นปันผล โดยบริษัทมีนโยบายจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ”นายธนัช กล่าว

ทั้งนี้ YGG ดำเนินธุรกิจ 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ แอนิเมชั่น คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 50% เกม 25% และกราฟิกโฆษณา/ภาพยนตร์ 25% ซึ่งในอนาคตคาดว่างานในส่วนของแอนิเมชั่นจะเพิ่มขึ้นไปถึง 60% ทำให้บริษัทฯให้บริการลูกค้าได้อย่างครบวงจร และสามารถควบคุมต้นทุนให้ต่ำลงได้

www.mitihoon.com