มิติหุ้น- NER ส่งซิก 8 ม.ค.นี้ บริษัทล้อยางรายใหญ่จากประเทศจีน บินลัดฟ้าเจรจาป้อนดีลใหญ่ แถมลูกค้าใหม่ทั้ง 7 รายยังสั่งออเดอร์ไม่หยุด ปี 63 ตั้งเป้ารายได้พุ่งเกิน 30% แลเป้ายอดขายยางไว้ที่ 4 แสนตัน เพิ่มขึ้น 52% จากปีก่อน เผยโรงงานใหม่พร้อมเดินเครื่อง เม.ย.นี้ ดันกำลังผลิตรวมพุ่ง 4.6 แสนตันต่อปี
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.นอร์ทอีส รับเบอร์ หรือ NER ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางพาราธรรมชาติแปรรูป โดย “นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า แม้ผลประกอบการไตรมาส 4/62 จะอ่อนตัวลงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เพราะออเดอร์ที่ส่งมอบในช่วงไตรมาสสุดท้ายเป็นออเดอร์ที่ได้รับมาในช่วงไตรมาส 2/62 ซึ่งเป็นช่วงราคายางปรับตัวลดลง อย่างไรก็ดีทั้งปี 62 มั่นใจทั้งกำไรสุทธิและรายได้รวมจะเติบโตทำนิวไฮ เพราะจากยอดขายยางทั้งปีทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 260,000 ตัน
ปี63รายได้พุ่ง30%
ส่วนในปี 63 บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% ซึ่งตั้งเป้ายอดขายยางไว้ที่ 400,000 ตัน เพิ่มขึ้น 52% จากปีก่อน โดยในปี 63 ราคาขายเฉลี่ยจะสูงกว่าปีก่อนค่อนข้างมากจากอุปทานยางทั่วโลกที่ตึงตัวขณะที่อุปสงค์ยางค่อนข้างมีความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากการซื้อของผู้ซื้อยางจากประเทศจีน
โดยวันที่ 8 ม.ค.63 นี้ จะมีลูกค้ารายใหม่ ซึ่งเป็น “บริษัทล้อยางรายใหญ่” ติดอันดับ 1 ใน 10 ของประเทศจีนจะเข้ามาขอเยี่ยมโรงงาน NER จะมีโอกาสป้อนออเดอร์ล็อตใหญ่ในระยะถัดไป ส่วนลูกค้ารายใหม่ที่พึ่งเข้ามาในช่วงปลายปี 62 ทั้ง 7 ราย ได้แก่ 1.Zhongce Rubber Thailand, 2. Triangle Tyre Co.,Ltd, 3. Silun Tire,4.Wuchan Zhongda Utech Singapore, 5. Chongqing General Trading Chemical , 6. Qingdao YaKai International ,7. Hongkong Tiancheng Investment&Trading Co.,Ltd ยังทยอยสั่งออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
โรงงานใหม่พร้อมผลิตQ2
พร้อมกันนี้ยังมีลูกค้ารายใหญ่ 2 ราย พร้อมที่จะเซ็นสัญญา Long Term เมื่อโรงงานใหม่ก่อสร้างแล้วเสร็จ คือ MICHELIN และ Apollo Tyre โดยโรงงานใหม่คาดจะแล้วเสร็จในเดือน เม.ย. 63 มีกำลังการผลิตเต็มที่ 170,000 ตันต่อปี ตั้งเป้าการใช้กำลังผลิต 70% และปี 64 จะเต็ม 100% จากปัจจุบันโรงงานเดิมมีกำลังผลิตเต็มที่ได้ 290,000 ตันต่อปี ปัจจุบันใช้กำลังผลิตไปกว่า 260,000 ตัน เมื่อรวมกำลังการผลิตเต็มที่ทั้งของเก่าและใหม่ทำให้กำลังผลิตเพิ่มเป็น 460,000 ตันต่อปี ล่าบริษัทมีลูกค้ารวมระยะสั้นและยาวประมาณกว่า 30 ราย
ผุดโปรดักส์ใหม่ เม.ย.นี้
นายชูวิทย์ กล่าวเสริมว่า เดือน เม.ย.นี้ บริษัทเตรีมออกสินค้าใหม่ ซึ่งเป็นสินค้าสำเร็จรูปที่เป็นแผ่นปูนอน แผ่นรองในพื้นคอกของปศุสัตว์ โดยบริษัทมีการพัฒนาสูตร ร่วมกันกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) โดยความต้องการในตลาดนี้มีสูงมาก จึงมั่นใจว่าจะได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี
โดย “สินค้าใหม่” จะให้อัตรากำไรขั้นต้น (มาร์จิ้น)สูงถึง 25% เมื่อเทียบกับธุรกิจยางที่ให้มาร์จิ้นเพียง 5% เท่านั้น ดังนั้นจะช่วยผลักดันให้ความสามารถในการทำกำไรเพิ่มขึ้น โดยในปี 63 ตั้งเป้ารายได้จากสินค้าใหม่ไว้ประมาณ 300-400 ล้านบาท หรือ กำไรเฉลี่ย 50-60 ล้านบาท และจะค่อยๆเพิ่มขึ้นในปีถัดไป (ยังไม่รวมไว้ในประมาณการณ์ปี 63)
เคาะราคา3.36บาท
ด้าน “น.ส.นารี อภิเศวตกานต์” นักวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป เปิดเผยว่า ปี 62 คาดกำไรสุทธิจะทำนิวไฮที่ 539 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% และยอดขาย 1.28 หมื่นล้านบาท เติบโต 27% จากปีก่อน ส่วนปี 63 มั่นใจจะเติบโตต่อเนื่องจากออเดอร์ที่เพิ่มขึ้นทั้งจากลูกค้าเดิม อีกทั้งลูกค้าใหม่จะเริ่มส่งมอบได้ตั้งแต่ต้นปี 63 เป็นต้นไป
ทั้งนี้บริษัทมีการขยายกำลังการผลิตรองรับออเดอร์จากลูกค้า โดยปี 63 คาดยอดขายอยู่ที่ 1.75 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้น 41% และคาดกำไรสุทธิ 574 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากปีก่อน ราคาปัจจุบันซื้อขายบน P/E เพียง 8 เท่าไม่แพงมากหากเทียบกับอัตราเติบโตของการดำเนินงาน และยังให้ผลตอบแทนเงินปันผลราว 5% ต่อปี ดังนั้นแนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย3.36 บาท
www.mitihoon.com