มิติหุ้น-อิหร่านปะทะสหรัฐ กูรูฟันธงยืดเยื้อเสนอ 2 ทางออกต้องมีตัวกลางเจรจาไกล่เกลี่ยและปลด “ประธานาธิบดี โดนัล ทรัมป์”เท่านั้นเหตุการณ์เข้าสู่ภาวะปกติระยะสั้น ทอง-น้ำมันพุ่งส่วนหุ้นยังร่วงต่อ
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า จากกรณีที่อิหร่านตอบโต้สหรัฐฯเมื่อช่วงเช้าวานนี้ (8 ม.ค.) โดยยิงขีปนาวุธกว่า 10 ลูกใส่ฐานทัพสหรัฐฯในอิรัก หลังจากสหรัฐฯรอบสังหาร “พลเอกกอเซ็ม สุไลมานี” โดยการโจมตีทางอากาศ จนส่งผลกระทบต่อสถาการณ์การการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกดิ่งระนาว “มิติหุ้น” ได้มีโอกาสสัมภาษณ์สด “อาจารย์พิเชียร อำนาจวรประเสริฐ” นักวิชาการอิสระถึงสถานการณ์ความตึงเครียดดังกล่าวว่า แนวโน้มสงครามระหว่างอิหร่านกับสหรัฐฯยังจะยืดเยื้อต่อไป ถ้าหากทั้ง 2 ฝ่ายดึงพันธมิตรเข้าร่วมทำสงคราม ซึ่งพันธมิตรสหรัฐฯคือกลุ่มอียู ออตเตรเลีย แคนนาดา ซาอุดิอาระเบีย และกลุ่มประเทศที่ฝักใฝ่ซาอุฯ ส่วนพันธมิตรอิหร่าน คือ รัสเซียและจีน 2 มหาอำนาจ และมีโอกาสอีกประเทศคือ อินเดีย ซึ่งยังสงวนท่าทีเป็นกลางแต่ลึกๆก็ไม่พอใจสหรัฐฯเช่นกัน
***สงครามจะขยายตัวแค่ไหน
หากประเมินในช่วงสั้นๆ 1-3 เดือนยังเป็นสงครามในวงจำกัด “Limited Warfare” และมีโอกาสเกิดขึ้นอีกหลายสิบครั้ง ดังนั้นระยะสั้นๆ หุ้นอาจจะลง ส่วนราคาทองกับ น้ำมันจะขยับขึ้น นอกจากนี้ทิศทางดอกเบี้ยก็จะปรับขึ้น เพราะเงินหายากในภาวะแบบนี้ ดังนั้นจะต้องรักษาสภาพคล่องเอาไว้ให้ดีที่สุด
ที่ผ่านมาสหรัฐบีบอิหร่านมาโดยตลอด เศรษฐกิจอิหร่านตกต่ำต่อเนื่อง 10-20 ปี ประชาชนอดอยาก เพิ่งผ่อนคลายเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา จนฟางเส้นสุดท้ายขาดคือ การสังหารนายพลกอเซม สุไลมานี จนอิหร่าน จะต้องหันกลับมาสู้เพราะไม่มีอะไรจะสูญเสียแล้ว
การจะสงบศึกได้อย่างไร
การเจรจาถือเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งตัวกลางในการไกล่เกลี่ยให้ทั้ง 2 ชาติหันมาเจรจาคือ “ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน” ผู้นำรัสเซีย หรือ “ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง” ของจีน เท่านั้น ส่วนความเห็นส่วนตัวแล้วควรจะต้องถอดถอนประธานาธิบดีสหรัฐฯ “โดนัล ทรัมป์” และการเลือกตั้งปลายปีนี้ก็ไม่ควรให้ทรัมป์ได้กลับมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไม่เช่นนั้นศึกครั้งนี้ก็จะไม่มีวันสงบลงได้ และอิหร่านยังได้ปรับการรบด้วยการทำสงครามแบบกองโจร หรือ guerrilla warfare คนนับล้านของอิหร่านก็พร้อมสละชีวิต ซึ่งนักวิชาการมีความเห็นตรงกันว่า ควรปลด “ทรัมป์” ขาดภาวะผู้นำในด้านคุณธรรมแล้ว
ตลาดหุ้นยังมีความหวังหรือไม่
ตลาดหุ้นไทยและหุ้นโลกมีโอกาสดีดกลับขึ้นมาได้ คือ 1. ผู้นำจีนและสหรัฐ เป็นตัวกลางในการเจรจาไกล่เกลี่ย 2.เรียกร้องให้ “ทรัมป์” ลาออก นั้นหากประเมินถึงความเป็นไปได้ ซึ่งเชื่อว่าในที่สุดคนอเมริกันก็ได้บทเรียนครั้งนี้แล้ว และส่วนตัวมองว่ามันยิ่งกว่ายุค “อดอล์ฟ ฮิตเลอร์” ที่มีการลอบทำร้ายผู้นำอีกประเทศ…”
มองหุ้นดาวน์โจน-น้ำมันอย่างไร
ดัชนีหุ้นสหรัฐปรับขึ้นต่อเนื่องจนเกินราคาพื้นฐานนานกว่า 1 ปีไปแล้วถือว่าน่ากังวลและมีโอกาสจะถูกถล่มเทขาย ซึ่งเชื่อว่าเป็นผลงานของผู้นำประเทศสหรัฐฯ ส่วนราคาน้ำมันก็มีโอกาสปรับขึ้นได้ต่อเพราะทุกๆวิกฤตก็จะมีกลุ่มนักลงทุนเข้ามาเก็งกำไร แต่ขอเตือนนักลงทุนหากมีกำไรระดับหนึ่งก็ควรจะขายออกมาไม่เช่นนั้นจะถูกถล่มขายกลับเช่นกัน