มิติหุ้น-ดร.ฤทธี กิจพิพิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN ผู้นำด้านธุรกิจพลังงาน พลังงานหมุนเวียน และยานยนต์ที่ใช้พลังงานทางเลือก กล่าวถึงภาพรวมของบริษัทปี 2562 ที่ผ่านมาว่า ‘SCN ได้ปรับแผน เป้าหมาย กลยุทธ์ และทิศทางของธุรกิจ ที่เน้นเดินเกมส์รุก แบบ 3+1 นั่นคือ ธุรกิจก๊าซธรรมชาติ NGV,ธุรกิจยานยนต์, ธุรกิจพลังงานทดแทน และธุรกิจโลจิสติกส์ ซึ่งได้เห็นความก้าวหน้าของธุรกิจดังกล่าวที่เติบโตอย่างไม่หยุดยั้งมาตลอดทั้งปี โดยมีสัญญาณที่ดีตั้งแต่ต้นปีที่ทางบริษัทได้ส่งมอบรถเมล์ NGV ทั้งหมดจำนวน 489 คัน ให้แก่ ขสมก. สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ซึ่งมีมูลค่ากว่า 1,891 ล้านบาท
อีกทั้งยังได้เป็นผู้ดูแลงานบำรุงและซ่อมแซมตามสัญญา เป็นระยะเวลา 10 ปี มูลค่ากว่า 2,370 ล้านบาท ต่อมาในเดือนมิถุนายน SCN ร่วมกับพันธมิตรจัดตั้งสมาคมผู้ประกอบการก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ ขึ้นมาเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือในการประกอบการธุรกิจก๊าซธรรมชาติให้แข็งแกร่ง เพื่อกระตุ้นให้รัฐบาลหนุนการใช้ก๊าซ NGV ซึ่งเป็นก๊าซธรรมชาติที่ประเทศไทยมีอยู่ถือเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ที่จะสามารถสนับสนุนให้เกิดประโยชน์ทั้งด้านคมนาคมและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และไม่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศอย่าง PM 2.5 อีกด้วย ผ่านมาถึงช่วงปลายเดือนมิถุนายน ได้รับเกียรติจาก นางออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งประเทศสาธารณรัฐสหภาพเมียนมา
พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานอย่างเป็นทางการที่ประเทศสาธารณรัฐสหภาพเมียนมา โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มินบูมีขนาดกำลังการผลิต 220 เมกะวัตต์ เป็นหนึ่งในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ASEAN และในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา บริษัทได้รับหนังสือแจ้งวันเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) อย่างเป็นทางการ สำหรับ phase 1 ซึ่งมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 50 เมกะวัตต์ และสามารถรับรู้รายได้ได้ทันทีโดยมีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน 2562 เป็นต้นไป โครงการดังกล่าวมีมูลค่ารวมทั้งสิ้นกว่า 292 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 10,000 ล้านบาท โดยได้รับความร่วมมือจาก 4 ผู้ลงทุน ได้แก่ SCN-ECF-META-NP ซึ่ง ในวันที่ 24 ธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา SCN ได้เข้าเข้าซื้อหุ้นเพิ่มเติมอีกร้อยละ 10 ส่งผลให้บริษัทมีสัดส่วนการถือหุ้นในโครงการนี้ ร้อยละ 40
SCN ไม่เคยหยุดยั้งในการมุ่งมั่นพัฒนาและผลิตพลังงานสะอาด โดยได้จับมือกับ 2 พันธมิตร ร่วมลงทุนในโซลาร์ รูฟท็อป ภายใต้ บริษัท สแกน แอดวานซ์ พาวเวอร์ จำกัด เมื่อเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา เพื่อเข้าลงทุนในสัญญาซื้อขายไฟภาคเอกชน (Private PPA) อีกทั้งเพื่อการพัฒนาการใช้พลังงานอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ โดยบริษัทได้เซ็นต์สัญญาลูกค้ากลุ่มแรก ขนาดกำลังการผลิต 4 เมกะวัตต์ ตั้งเป้า 4 ปี ขยายกำลังการผลิตรวมกว่า 110 เมกะวัตต์คิดเป็นมูลค่าลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท ทั้งนี้ในส่วนของธุรกิจยานยนต์ SCN ได้ทำการจัดตั้ง บริษัท แพนเทอรา มอเตอร์ส จำกัด ขึ้นมาเพื่อรองรับงานประมูลรถโดยสารสำหรับงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน รวมไปถึงการผลิต ติดตั้ง และประกอบรถโดยสารทุกประเภท ที่มีมาตรฐานสูงสุดในประเทศไทย
นอกจากนี้ยัง จำหน่าย ให้เช่า และให้บริการหลังการขายรถโดยสารทุกประเภทแก่ผู้ประกอบการรายย่อย ทั้งนี้บริษัทได้เปิดตัวรถมินิบัส ยี่ห้อ Bonluck หรือ BLK รถโดยสารขนาดเล็ก รุ่น Panthera ขนาด19+1 ที่นั่ง ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 2 แบบ ดีเซล และ NGV และ รถโดยสารขนาดใหญ่ หรือ รถ Coach โดยรถทั้งหมดได้ถูกออกแบบโครงสร้างมาเป็นพิเศษ ด้วยความแข็งแรง ทนทาน เน้นความปลอดภัยของคนขับและผู้โดยสารเป็นพิเศษ นอกจากนี้บริษัทได้จำหน่ายกิจการตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ (Auto Dealer) ยี่ห้อ Mitsubishi ของบริษัทจำนวน 2 แห่ง โดยบริษัทมีนโยบายที่จะนำรายได้จากการจำหน่ายกิจการไปลงทุนต่อในธุรกิจต่างๆที่กล่าวในข้างต้น โดยกำหนดผลตอบแทน (IRR) ขั้นต่ำที่ 10%