ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุในบทวิเคราะห์ บมจ.ท่าอากาศยานไทย หรือ AOT ว่า ราคาหุ้น AOT ปรับตัวลง 8% ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากขาดปัจจัยกระตุ้นในระยะสั้นในรายงานนี้ ฝ่ายวิจัยได้รวมรายได้จากสัญญาสัมปทานเคาน์เตอร์จ่ายสินค้า ซึ่งคาดจะชดเชยรายได้ minimum guarantee ที่ต่ำกว่าคาด ซึ่ง King Power เสนอให้ AOT สำหรับสัญญาสัมปทานดิวตี้ฟรีที่สนามบินดอนเมือง ดังนั้นราคาเป้ าหมายของฝ่ายวิจัยจึงไม่เปลี่ยนแปลงที่ 85.00บาท (WACC 8.2%, LTG 2.5%) และยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้นโดยมีมุมมองเป็นบวกในระยะยาว โดยเฉพาะการเติบโตของกำไรหลัก 45% ในปี 2564
ผิดหวังกับการประกันรายได้ขั้นต่ำที่สนามบินดอนเมือง
AOT ประกาศว่า King Power เสนอการประกันรายได้ขั้นต่ำที่ 1.5 พันล้านบาทแก่ AOT สำหรับสัญญาสัมปทานดิวตี้ฟรีที่สนามบินดอนเมืองที่จะเริ่มในปี 2566 ซึ่งต่ำกว่าที่คาดไว้ที่ 3.8 พันล้านบาทเนื่องจาก King Power เป็นผู้ประมูลสัญญานี้เพียงผู้เดียว มองในแง่บวกการแบ่งรายได้จากสัญญาใหม่จะเพิ่มขึ้นเป็น 20% เทียบกับ 15% ในสัญญาก่อนหน้านี้ ภายใต้สัญญาฉบับใหม่เราคาดการณ์ว่า King Power น่าจะจ่ายรายได้ให้แก่ AOT ตามส่วนแบ่งรายได้เนื่องจากจะเกินรายได้ minimum guarantee คาดการประมูลเคาน์เตอร์สินค้ามีอัพไซด์จำกัดปัจจัยกระตุ้นใหม่ของ AOT คือผลการประมูลสัญญาสัมปทานเคาน์เตอร์สินค้าปลอดอากร
อย่างไรก็ตาม คาดว่าอัพไซด์จะจำกัด เนื่องจาก AOT จะเปิดเคาน์เตอร์สินค้าสาธารณะซึ่งอนุญาตให้ผู้ประกอบการปลอดภาษีรายอื่นๆ ใช้บริการและจ่ายส่วนแบ่งรายได้ 5% ให้แก่
AOT สิ่งจูงใจเพียงอย่างเดียวสำหรับผู้ชนะการประมูล คืออัตราส่วนแบ่งรายได้ให้แก่ AOT ที่ต่ำกว่าที่ 3% ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยคาดว่ารายได้ minimum guarantee ที่จะเสนอโดยผู้ประมูลจะอยู่ที่ 1.2
พันล้านบาท สำหรับการประมูลเคาน์เตอร์สินค้า (0.8 บาทสำหรับสนามบินสุวรรณภูมิ และ 0.4 บาทสำหรับสนามบินดอนเมืองในปี 2566)
คาดการเติบโตของ EPS จะฟื้นตัวในไตรมาส 1/63
ฝ่ายวิจัยคาดว่ากำไรหลักจะฟื้นตัวและเติบโตอีก 5% ในไตรมาส 1/63 (ต.ค. – ธ.ค. ) เทียบกับที่ลดลง YoY ไตรมาส 4/62 เนื่องจากการเติบโตที่แข็งแกร่งของผู้โดยสารต่างประเทศที่ 9% ใน
เดือน ต.ค. – ธ.ค. คาดโมเมนตัมมีแรงส่งต่อไปและกำไรหลักน่าจะทำสถิติสูงสุดในไตรมาส 2/63 เนื่องจากเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวของไทยซึ่งเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ของจีน
www.mitihoon.com
