“สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์” มั่นใจผลงานปี 63 ท็อปฟอร์ม ตั้งเป้ารายได้โตกว่า 10% ปิดดีลศูนย์ราชการฯ มูลค่าโครงการก่อสร้าง 22,000 ลบ.

194

มิติหุ้น –  “สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์” หรือ STI แย้มผลงานปี 63 สวยต่อเนื่อง ตั้งเป้ารายได้โตกว่า 10% จากปัจจุบันกอดงานในมือไว้สูงถึง 2,000 ล้านบาท แถมงานโครงการเดินหน้าตามแผนที่วางไว้ ล่าสุด ลงนามในสัญญาคุมงานก่อสร้างโครงการพัฒนาพื้นที่ส่วนขยายศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 โซน C
นายสมเกียรติ ศิลวัฒนาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STI ผู้นำกลุ่มธุรกิจที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงานก่อสร้างครบวงจร เปิดเผยถึง ภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ปี 2563 คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากปัจจุบันมีงานในมือที่รอรับรู้เป็นรายได้ (Backlog) กว่า 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนงานในมือจากภาคเอกชน 76% และงานภาครัฐ 24% โดยงานส่วนใหญ่ของ STI เป็นงานโครงการขนาดใหญ่ สามารถดำเนินงานต่อเนื่องได้ตามเป้าหมาย และทยอยรับรู้เป็นรายได้เข้ามาในปีนี้ จึงตั้งเป้าหมายรายได้ทั้งปีจะเติบโตมากกว่า 10% เมื่อเทียบกับปีก่อน
สำหรับโปรเจกต์ใหญ่ที่ได้รับมาประเดิมศักราชใหม่ปีนี้ สะท้อนความสำเร็จในการขยายฐานลูกค้ามายังหน่วยงานภาครัฐมากขึ้น ล่าสุด ชนะประกวดราคางานจ้างควบคุมการก่อสร้างโครงการพัฒนาพื้นที่ส่วนขยาย ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 โซน C จำนวน 1 โครงการ มูลค่าคุมงาน 520 ล้านบาท และโครงการนี้อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) โดยงานในครั้งนี้ ดำเนินการในนามกลุ่ม SPC Consortium ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นโดยมี STI เป็นแกนนำ ได้รับความไว้วางใจให้คุมงานโครงการใหญ่ของภาครัฐที่มีมูลค่าก่อสร้างสูงถึง 22,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ STI มีงานโครงการในมือขนาดใหญ่หลากหลายกลุ่ม ที่ยังคงเดินหน้าตามแผน อาทิ โครงการ One Bangkok โครงการ The PARQ โครงการปรับปรุงศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โครงการพัฒนาพื้นที่หมอน 33 หรือบล็อก 33 เขตพาณิชย์สวนหลวง – สามย่าน ของสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (PMCU) โครงการก่อสร้างศูนย์การค้า Terminal21 พระราม 3 โครงการ ก่อสร้างสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ของธนาคาร ยูโอบี (ไทย) โครงการก่อสร้างอาคารสำนักงาน Tipco Building Extension  ทำให้ในปี 2563 ยังเป็นปีที่ STI มีการขยายการเติบโตได้อย่างโดดเด่น แม้ว่าภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์จะซบเซา มีการชะลอตัวลง แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบกับบริษัทฯ
เพื่อเตรียมพร้อมรับโอกาสในอนาคต กลุ่ม STI มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพของบุคคลากร จัดอบรมให้ความรู้วิศวกรและสถาปนิก นำแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ เข้ามาใช้สนับสนุนในการทำงาน เพื่อการบริหารงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งเรื่องการตรวจสอบรายละเอียดการทำงาน เรื่องแผนความปลอดภัย การวางแผนงาน และเน้นเรื่อง e-learning ให้พนักงานอย่างสม่ำเสมอ โดยมุ่งเน้นคุณภาพของงานเป็นหัวใจสำคัญ
“สำหรับภาพรวมผลประกอบการในปี 2562 เรามั่นใจจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยตั้งเป้ารายได้เติบโต 10% จากปีก่อน และตั้งเป้าเติบโตต่อเนื่องในปี 2563 มากกว่า 10% แน่นอน เนื่องจากปัจจุบัน เรามีงานในมือที่เตรียมทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ราว 80% ของเป้าหมายในปีนี้แล้ว และส่วนที่เหลือจะเป็นลูกค้าใหม่ที่เข้ามาเพิ่มเติมอีกประมาณ 20% จึงมั่นใจ STI ปี 2563 จะทำได้ดีกว่าเป้าหมาย และไม่มีปัจจัยใดที่น่ากังวล เพราะลูกค้าส่วนใหญ่เป็นหน่วยงานภาครัฐบาลและเอกชนรายใหญ่ ที่ต้องเดินหน้าโปรเจกต์ให้แล้วเสร็จตามแผนงานที่วางไว้” นายสมเกียรติ กล่าว