ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง หรือ PLE โดย “นักวิเคราะห์หลักทรัพย์” เปิดเผยว่า ราคาหุ้น PLE ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 12 เดือน ซึ่งคาดว่ามาจากการเข้า “เก็งกำไร” หรือ “ซื้อสะสม” เนื่องจาก PLE เป็นหุ้น “ต่ำบาท” ที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง และ กำลังแจ้งข่าวดี
โดยปัจจุบัน PLE มีกระแสเงินสดในมือสูง กำไรสะสมกว่า 406 ล้านบาท ,P/E ต่ำเพียง 7.29 เท่า และยังให้อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทนสูงถึง 8.71% ซึ่งราคาหุ้นยังต่ำบุ๊กแวลูที่ 1.84 บาท นอกจากนี้ PLE พร้อมแจ้งข่าวดีช่วงไตรมาส 4/62 ผลประกอบการจะเติบโตโดดเด่น จากการรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog) และ กำไรก้อนใหญ่จากบริษัทย่อย ดังนั้นในระยะสั้นๆ แนะนำ “เก็งกำไร” มองเป้าหมาย 1.15 บาท
ด้าน “นายเสวก ศรีสุชาต” ประธานกรรมการบริหาร เผยว่า บริษัทจะติดตามงานประมูลใหญ่ๆกว่า 5 แสนล้านบาท เช่น โครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล โดยเฉพาะการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายต่างๆ,โครงการในพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC), โครงการท่าอากาศยานอู่ตะเภา และโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา เป็นต้น เพื่อหนุนให้ Backlog เพิ่มขึ้นและผลักดันให้ผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง
ด้าน “บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส” เผยว่า ฝ่ายวิจัยแนะนำ “เพิ่มน้ำหนัก” ลงทุนในหุ้น PLE เพราะขณะที่ P/E เพียง 4.9 เท่า ถูกเทียบกลุ่มรับเหมาเฉลี่ยที่ 18 เท่า P/BV ที่เพียง 0.5 เท่า และคาดการณ์อัตราผลตอบแทนปันผลปีนี้ที่สูงมากเป็น 9.9%
ส่วนแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/62 จะเติบโตโดดเด่น จากการทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog) ที่มีกว่า 13,000 ล้านบาท โดยโครงการสำคัญที่จะสร้างรายได้ คือ อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1: Midfield Satellite Building-1) ซึ่งจะมีการรับรู้รายได้ที่มากในช่วงไตรมาส 4/62 ประมาณ 2,100-2,400 ล้านบาท ดังนั้นทั้งปี 62 คาดกำไรสุทธิจะอยู่ที่ 261 ล้านบาท เติบโต 17 % จากปีก่อน และรายได้รวมอยู่ที่ 9,000 ล้านบาท เติบโตกว่า 10% จากก่อนที่มีรายได้รวมเพียง 7,977 ล้านบาท
ส่วนปี 63 ทั้งกำไรและรายได้จะเติบโตต่อเนื่อง เพราะยังทยอยรับรู้รายได้จาก Backlog เข้ามาประมาณ 6 พันล้านบาท โดยเฉพาะงานก่อสร้างโรงผลิตยารังสิต ระยะที่ 2 ขององค์การเภสัชกรรม มูลค่า 5,264 ล้านบาท และการเดินหน้ารับงานเพิ่มระหว่างปี 63 อีกด้วย โดยในปี 63 คาดรายได้รวมจะแตะที่ระดับ 10,000 ล้านบาท เติบโต 10% จากปีก่อน
พร้อมกันนี้ในปี 63 PLE ยังมีโอกาสคว้างานใหญ่ๆ คือ “โครงการรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน” โดย PLE มีสายสัมพันธ์ที่ดีจึงมีโอกาสได้เป็นผู้รับเหมาช่วงงานในส่วนศูนย์ซ่อมบำรุงและเข้าจอดรถไฟฟ้า (Depo) คาดว่าจะมีมูลค่างานราว 10,000 ล้านบาท อีกทั้ง PLE มีประสบการณ์ทำงานประเภทนี้มาก เช่น สายสีส้ม เสร็จไปแล้ว กำลังทำสายสีชมพู ที่มีนบุรี และในอนาคตมีโอกาสได้งานสายสีเหลืองอีกด้วย
www.mitihoon.com
