ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ธนาคารเกียรตินาคิน หรือ KKP โดย “นายอภินันท์ เกลียวปฏินนท์”ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า ปี 2562 ธนาคารได้รายงานกำไรสุทธิอยู่ที่ 5,988.44 ล้านบาท ลดลง 0.9% เมื่อเทียบกับปี 2561 ที่มีกำไรสุทธิ 6,041.98 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการดำเนินงาน 19,168 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.9% โดยหลักๆมาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เพิ่มขึ้น ตามการเติบโตของสินเชื่อ ขณะที่ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่นๆปรับเพิ่มขึ้น
ด้านสินเชื่อมีการขยายตัว 4.2% จากสิ้นปี 2561 โดยมาจากการขยายตัวใน สินเชื่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ สินเชื่อธุรกิจเอสเอ็มอี และสินเชื่อรายย่อยเกือบทุกประเภท ยกเว้น สินเชื่อเช่าซื้อรถยนตท์ที่มีการหดตัวในปี 2562 ในด้านคุณภาพของสินเชื่ออัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวม ณ สิ้นปี 2562 อยู่ที่ 4.0% ปรับลดลงจากสิ้นปี2561 ที่อยู่ 4.1%
ส่วนธุรกิจตลาดทุน “บล.ภัทร” มีส่วนแบ่งตลาด (SET และ mai ไม่รวมบัญชีซื้อขายหลักทรัพยของบริษัท ) 9.61% ซึ่งเป็นอันดับที่ 1 จากจำนวนบริษัทหลักทรัพย์ทั้งหมด 39 แห่ง โดยเพิ่มขึ้นจาก 4.55% ในปี 2561
ด้าน “บล.เอเซียพลัส” เปิดเผยว่า ช่วงไตรมาส 4/62 KKP มีกำไรสุทธิเท่ากับ 1,680 ล้านบาท เติบโต 4% จากไตรมาสก่อน และเติบโต 18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จาก Credit Cost ลงมาที่ 0.35% จาก 0.63% ในงวดก่อน รวมทั้งรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย โดยเฉพาะรายได้ค่าธรรมเนียมฯ กลุ่มงาน IB ที่มีแรงหนุนจากดีลใหญ่อย่าง AWC
ส่วนทั้งปี 62 กำไรเป็นไปตามคาด ใกล้เคียงปีก่อนที่ 5,988 ล้านบาท ด้าน NPL ณ สิ้นปีอยู่ที่ 4% ลดลงจาก 4.1% ปีก่อน (3Q62 ที่ 4.2%) ส่วนปี 2563 คาดกำไรสุทธิปี 2563 ที่ 6,067 ล้านบาท ทรงตัวจากปีก่อน เนื่องจากคาดการณ์รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมฯ ลดลงจากฐานสูงปีก่อน ขณะที่ธุรกิจหลักมีทิศทางที่ดี จากรายได้ค่าธรรมเนียมฯ ที่มีแรงหนุนจากงาน IB ใหญ่อย่าง CRC ช่วงตรมาส 1/63 คงแนะนำ “ซื้อ” สำหรับลงทุนระยะกลาง โดยคาดหมาย Div yield ช่วงครึ่งหลังปี 62 ราว 4.4% และทั้งปี 2563 ที่ 6.7%
www.mitihoon.com
