YLG เผยสถิติ 5 ปีย้อนหลังเดือนม.ค.ทองพุ่ง 5% ช่วงตรุษจีนราคาแผ่วจังหวะเหมาะเก็บของถูกเข้าพอร์ต

131

มิติหุ้น – วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดตัวเลขสถิติย้อนหลัง 5 ปี ช่วง 2558 – 2562 พบราคาทองพุ่งก่อนถึงวันตรุษจีน เหตุคนนิยมซื้อไว้มอบเป็นของขวัญ แต่เมื่อถึงวันตรุษจีนราคาทองส่วนมากปรับตัวลดลง เหตุเป็นวันหยุดยาวของชาวจีน ขณะที่ราคาทองคำเดือน มกราคม 5 ปีย้อนหลังปรับขึ้นทุกปี เฉลี่ย 5% แนะถือจังหวะทองลงช่วงตรุษจีนเก็บของถูกเข้าพอร์ตเพื่อเก็งกำไรส่วนต่าง หากอิงตามสถิติทองบวก 5% เดือนม.ค.ปีนี้มีโอกาสขยับขึ้นแตะ 1,594 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 22,900 บาทต่อบาททองคำบาท ส่วนระยะยาวทั้งปียังมองเป็นขาขึ้น เหตุปัจจัยหนุนด้านเศรษฐกิจโลกที่ชะลอ อัตราดอกเบี้ยต่ำทั่วโลก

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) ผู้นำเข้าและส่งออกทองคำแท่งรายใหญ่ของไทยเปิดเผยว่า แม้ว่าปัจจุบันราคาทองจะปรับตัวลดลงจากช่วงต้นเดือนมกราคม ซึ่งราคาทองคำโลกได้ทะยานขึ้นไปทดสอบบริเวณ 1,611 ดอลลาร์ต่อออนซ์เมื่อวันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา แต่ในอีกไม่กี่วันก็จะเข้าสู่วันตรุษจีน ซึ่งทองคำถือเป็นสินทรัพย์ที่นิยมในการมอบเป็นของขวัญ ของกำนัล ในช่วงตรุษจีนในทุกยุคสมัย ทั้งนี้ YLG ได้เก็บสถิติข้อมูลราคาทองคำ 5 ปีย้อนหลัง ในปี 2558 – 2562 พบว่า ราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นไปในช่วงก่อนจะถึงวันเทศกาลตรุษจีน แต่เมื่อถึงวันเทศกาลตรุษจีนซึ่งเป็นวันหยุดยาวของคนจีน ราคาทองคำจะลดลงโดยปรับตัวลง 3 ปี ใน 5 ปี โดยช่วง 2 ปีล่าสุด 2561 – 2562 ราคาทองคำปรับตัวลดลงทั้ง 2 ปีติดต่อกัน ซึ่งค่อนข้างอิงกับข้อสมมติฐานที่กล่าวไว้ข้างต้น ที่คาดว่าจีนจะเร่งซื้อทองคำก่อนถึงช่วงเทศกาล เพื่อเป็นของขวัญ แต่หลังจากนั้นแรงซื้อจะลดลงเมื่อเทศกาลมาถึง
อย่างไรก็ตาม พบอีกสถิติที่น่าสนใจ เนื่องจากเดือนมกราคม จะเป็นเดือนที่ทองคำให้ผลตอบแทนดีที่สุด เมื่อเทียบกับเดือนอื่นๆของปี จากข้อมูลพบว่า 5 ปีย้อนหลังที่ผ่านมา ราคาทองคำในเดือนมกราคม สามารถปรับตัวขึ้นได้เฉลี่ยที่ 5% โดยประมาณ ทั้งนี้ ราคาทองคำเดือนมกราคม ในปี 2558, 2559, 2560, 2561 และ 2562 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.40%, 5.37%, 5.11%, 3.22% และ 2.98% ตามลำดับ

ดังนั้นหากดูจากข้อมูลสถิติที่เดือน ม.ค. เป็นเดือนที่ทองคำให้ผลตอบแทนดีสุด การปรับตัวลงของราคาทองคำในช่วงจีนหยุดยาววันตรุษจีน ยังถือเป็นโอกาสหนึ่งในการเข้าซื้อทองคำ เพื่อรอทำกำไรจากราคาทองคำที่มีแนวโน้มดีดตัวขึ้น ทั้งนี้ในปี 2563 หากนับจากราคาเปิด จนถึงปัจจุบัน (Year to date) ราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาแล้ว 2.74% จากราคาเปิดปีบริเวณ 1,517.72 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จนถึงปัจจุบัน ณ วันที่ 20 ม.ค. เวลา 11.03 น.ตามเวลาไทย อยู่ที่บริเวณ 1559.29 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ถือว่าราคาทองคำยังมีโอกาสปรับขึ้นอยู่อีกพอสมควร

“หากลองตั้งสมมติฐานว่า ราคาทองคำจะสามารถปรับตัวขึ้นขึ้นได้เฉลี่ย 5% ในเดือน ม.ค. ดังนั้นราคาเป้าหมายปิดตลาดเดือนนี้ น่าจะมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปแถวบริเวณ 1,594 ดอลลาร์ต่อออนซ์ มีโอกาสปรับขึ้นอีกราวๆ 35 เหรียญ จากระดับราคาปัจจุบันซึ่งอยู่ที่บริเวณ 1559.29 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือหากคำนวณเป็นราคาทองคำในประเทศมีโอกาสขึ้นไปทดสอบระดับ 22,900 บาทต่อบาททองคำ (ราคาทองคำในประเทศคำนวณโดยใช้ค่าเงินบาท ณ วันที่ 20 ม.ค. 2563 เวลา 11.03 น.ตามเวลาไทย ที่ 30.40 บาทต่อดอลลาร์)
ส่วนทิศทางระยะยาวนั้น YLG ประเมินว่า ราคาทองคำในปีนี้ยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้น จากปัจจัยด้านเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวส่งผลให้ธนาคารกลางทั่วโลกดำเนินนโยบายดอกเบี้ยต่ำ รวมถึงตลาดหุ้นทั่วโลกที่มีความผันผวน” นางพวรรณ์ กล่าว

สำหรับภาพรวมธุรกิจของ YLG เมื่อเปิดปี 2563 เป็นต้นมาพบว่าได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี ส่วนหนึ่งเป็นเพราะราคาทองคำเมื่อเปิดต้นปีมาปรับตัวสูงขึ้นจึงดึงดูดความสนใจนักลงทุน อีกทั้ง YLG มีบริการเปิดบัญชีซื้อ-ขาย ทองคำแท่งที่สะดวกผ่านระบบโทรศัพท์ (YLG Telesale) ที่เปิดให้บริการถึงตี 2 รวมถึงการพัฒนาระบบซื้อ – ขาย ผ่านเทคโนโลยีที่ทันสมัยสะดวกสบาย ด้วย YLG Internet Trading ที่สามารถซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทาง www.ylgonline.com และทาง YLG Online Application บน App Store ที่ทำให้ซื้อขายทองคำทุกที่ได้อย่างง่ายดาย ตลอดจนการบริการส่งมอบทองคำแท่งให้กับลูกค้าด้วยความรวดเร็ว