ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ KOOL ทำธุรกิจจัดหาและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์พัดลมไอเย็น พัดลมไอน้ำ และพัดลมอุตสาหกรรม โดย “แหล่งข่าววงการอุตสาหกรรม” เปิดเผยว่า ขณะนี้ KOOL อยู่ระหว่างเจรจาร่วมทุนกับพันธมิตรรายใหญ่นอกตลาด เพื่อแตกไลน์สู่ “ธุรกิจไฟฟ้าครบวงจร” คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในเร็วๆนี้
เด้งรับบาทอ่อน-PM.2.5
ส่วนภาพธุรกิจในปี 63 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตแบบ Conservative ที่ 10% จากปีก่อน โดยผลประกอบการไตรมาส 1/63 จะเติบโตโดดเด่น เนื่องจากบริษัทจะได้รับอานิสงส์บาทอ่อนค่าลงมา 2.01% (1ม.ค.63 ที่ 29.76 บาทต่อดอลลาร์ เทียบ 20 ม.ค.63 ที่ 30.36 บาทต่อดอลลาร์) เพราะบริษัทมีสัดส่วนส่งออกกว่า 25% ของรายได้รวม อีกทั้งยังได้รับอานิสงส์ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5ด้วย โดยบริษัทเตรียมวางจำหน่าย “เครื่องกรองอากาศ” ซึ่งมั่นใจยอดขายจะเติบโตได้ดี
สำหรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทจะเน้นทำการตลาดในทุกๆช่องทาง ทั้งทางออนไลน์,โมเดิร์นเทรด ,ลูกค้าองค์กร(โรงงานอุตสาหกรรม,โรงพยาบาล,ห้างสรรพสินค้า,โรงแรมฯลฯ) ,ลูกค้าส่งออก และ บริการเช่าสินค้า รวมถึงจะพัฒนาระบบต่างๆ และคลังสินค้าให้มีความสามารถในบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
รุกตลาดตปท.-ต้าน1.50บ.
รวมถึงมุ่งเน้นขยายงานไปยังต่างประเทศมากขึ้น เนื่องจากมีความต้องการสินค้าสูง โดยบริษัทจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆเพื่อตอบรับกับภูมิอากาศในภูมิภาคต่างๆ อาทิ ประเทศยุโรป อเมริกาใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ รวมถึงมีแผนเจาะตลาดใหม่ๆด้วย ดังนั้นทั้งปี 63 คาดสัดส่วนต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นเป็น 30% จากปัจจุบันกว่า 25% ของรายได้รวม
ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันราคาหุ้น KOOL เกิด Bottom out และมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นแบบเทิร์นอะราวด์ เพื่อขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1.50 บาท ดังนั้นแนะนำ “เก็งกำไร”