FTE ปรับกลยุทธ์เชิงรุก ขยายฐานลูกค้า รักษามาร์เก็ตแชร์อับดับหนึ่ง

69

มิติหุ้น-FTE ตั้งเป้ารายได้ปี 63 โต 10% แตะ 1,275 ล้านบาท รักษาอัตรากำไรสุทธิ 12% ครองแชมป์มาร์เก็ตแชร์อับดับหนึ่ง ปรับกลยุทธ์เชิงรุกขยายฐานลูกค้าเจาะกลุ่มหน่วยงานราชการ โรงงานทั่วประเทศ เพิ่มทีมขาย ไลน์สินค้า สร้างโอกาสการแข่งขัน เผย Backlog 470 ล้านบาท มั่นใจกวาดงานประมูลต่อเนื่อง

นายทักษิณ ตันติไพจิตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไฟร์เทรดเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (FTE) ผู้นำธุรกิจนำเข้าและจำหน่าย บริการออกแบบ รับเหมาติดตั้ง ซ่อมแซม ตรวจสอบอุปกรณ์-ระบบดับเพลิงครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้รวมปีนี้ 10% หรือมีรายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 1,275 ล้านบาท รักษาอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ประมาณ 12% สัดส่วนรายได้แบ่งเป็นงานจำหน่ายอุปกรณ์ดับเพลิงประมาณ 70% งานรับเหมาติดตั้งระบบดับเพลิง 30% พร้อมรักษาความเป็นผู้นำตลาดอันดับหนึ่ง

สำหรับแผนการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้มุ่งเน้นกลยุทธ์เชิงรุกมากขึ้น ประกอบด้วย การขยายฐานลูกค้างานรับเหมาออกแบบติดตั้งระบบฯ โดยการเจาะกลุ่มหน่วยงานราชการ โรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศ  เพื่อกระจายความเสี่ยง ไม่พึ่งพาฐานลูกค้ากลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง และเน้นการรับงานโครงการขนาดใหญ่ อาทิ งานออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิงสถานีไฟฟ้าแรงสูงของ กฟผ. งานปรับปรุงระบบดับเพลิงสนามบินทั่วประเทศ การเพิ่มประสิทธิภาพด้านงานขาย โดยเพิ่มทีมขายที่มีความเชี่ยวชาญ อีกทั้งการเพิ่มผลิตภัณฑ์รูปแบบต่างๆ ครอบคลุมความต้องการใช้งานของกลุ่มลูกค้าและเพิ่มโอกาสในการแข่งขัน

 “ภาพรวมเศรษฐกิจในปีนี้ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง ยังมีความเสี่ยงเรื่องความล่าช้าของโครงการภาครัฐ และการชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ อย่างไรก็ตาม แนวโน้มตลาดอุปกรณ์ดับเพลิงปีนี้คาดว่าจะขยายตัวได้ดี ตามความต้องการใช้งานต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากโรงงานอุตสาหกรรมที่ขอรับการส่งเสริมจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) รวมถึงการสร้างอาคารใหม่และการปรับปรุงระบบดับเพลิงของหน่วยงานราชการ ถือเป็นโอกาสการรับงานของบริษัท  อีกทั้งการบังคับใช้กฎหมายให้มีความปลอดภัยที่เข้มงวด ซึ่งบริษัทเชื่อว่ากลยุทธ์การดำเนินงานในปีนี้ ประกอบกับความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนของบริษัทจะสามารถรักษาอัตราการเติบโต และอัตราการทำกำไรได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ อีกทั้งสามารถรักษาส่วนแบ่งการตลาดได้” นายทักษิณ กล่าว

สำหรับมูลค่างานในมือ (Backlog) ปัจจุบันอยู่ที่ 470 ล้านบาท แบ่งเป็นงานจัดจำหน่าย 170 ล้านบาท งานออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิง 300 ล้านบาท และมีโครงการที่อยู่ระหว่างรอผลพิจารณางานออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิงเพิ่มเติมอีก 50 โครงการ มูลค่าประมาณ 250 ล้านบาท คาดว่าบริษัทจะได้รับงานอยู่ที่ประมาณ 100 ล้านบาท  พร้อมเดินหน้าเข้าประมูลงานของทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง