กสทช. หนุนให้บริการระบบ 5G ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ – ย้ำเดินหน้าประมูล 16 ก.พ. นี้

63
มิติหุ้น – สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) ร่วมกับ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการว่าด้วยการศึกษาและการให้บริการผ่านโครงข่ายโทรคมนาคมในระบบ 5G โดยมีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และพลเอก สุกิจ ขมะสุนทร ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (ประธาน กสทช.) ร่วมเป็นประธานในพิธีลงนาม
 นายฐากร  ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) กล่าวว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง 2 หน่วยงานในครั้งนี้ จะช่วยอำนวยความสะดวกในการให้บริการผู้โดยสารและประชาชนภายในสนามบิน โดยสำนักงาน กสทช. และ ทอท. จะมีคณะทำงานร่วมกันเพื่อพิจารณาว่ามีบริการใดในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่ต้องใช้ระบบ 5G ซึ่งตามแผนของสำนักงาน กสทช. จะมีการจัดประมูลคลื่นความถี่ทั้งหมด 4 ย่าน ได้แก่ ย่านความถี่ 700 MHz 1800 MHz 2600 MHz และ 26 GHz ในวันที่ 16 ก.พ. 2563 คาดว่าจะออกใบอนุญาตได้ปลายเดือน ก.พ. 2563
โดยผู้รับใบอนุญาตสามารถเริ่มติดตั้งโครงข่ายได้ตั้งแต่เดือน มี.ค. 2563 หลังจากนั้นหากมีผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมวางโครงข่ายในท่าอากาศยานก็จะสามารถให้บริการระบบ 5G เชิงพาณิชย์ได้ เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยเฉพาะนวัตกรรมต่างๆ ที่จะช่วยส่งเสริมการเดินทางของนักท่องเที่ยวเมื่อมาถึงประเทศไทย ซึ่งท่าอากาศยานถือเป็นประตูด่านแรกของนักเดินทางทั่วโลก
 “การทดลองให้บริการระบบ 5G ครั้งนี้จะเริ่มในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิก่อนขยายไปยังท่าอากาศยานแห่งอื่น ถือเป็นความร่วมมือข้ามอุตสาหกรรมระหว่างบริการโทรคมนาคม และอุตสาหกรรมการบินในการเชื่อมต่อกับภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก ผมเชื่อว่าเทคโนโลยี 5G ที่เกิดขึ้นจะเกิดประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมการบินในอนาคตรวมถึงอุตสาหกรรมอื่นที่เกี่ยวเนื่อง นักท่องเที่ยวจะได้รับความสะดวกสบายเมื่อเดินทางมายังประเทศไทย และจะเห็นเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวกลับเข้าสู่ประเทศมากขึ้น” นายฐากร กล่าว
 นายฐากร กล่าวว่า การผลักดันการให้บริการระบบ 5G ที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ จะช่วยเพิ่มศักยภาพโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ให้ไทยสามารถแข็งขันกับประเทศต่าง ๆ ได้ รวมถึงสร้างความพร้อมเพื่อรองรับการย้ายฐานการผลิตของประเทศสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และจีน เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงเทคโนโลยี ความสามารถในการแข่งขันทางการค้า เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร การแพทย์ นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อการเกษตร การค้า ขนส่ง และบริการ
ทั้งนี้หากการประมูล 5G เป็นไปตามแผน คาดว่าเดือน มิ.ย.- ก.ค. 2563 จะสามารถเปิดให้บริการ 5G ได้ในพื้นที่ EEC ย่านใจกลางเมือง ซึ่งการเปิดให้บริการดังกล่าวจะใกล้เคียงกับการเปิดบริการ 5G ของประเทศญี่ปุ่นที่มีกำหนดเปิดให้บริการในช่วงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในเดือน ก.ค. 2563 ส่วนการเปิดรับเอกสารการประมูล 5G ขณะนี้มีผู้ประกอบการกิจการโทรคมนาคมสนใจเข้ารับเอกสารแล้วทั้งสิ้น 5 ราย ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถรับเอกสารได้จนถึงวันที่ 3 ก.พ. 2563 จากนั้นจะเปิดให้ยื่นเข้าร่วมการประมูลในวันที่ 4 ก.พ. 2563
www.mitihoon.com