มิติหุ้น-CGD กางแผนปี 63 เข้าสู่โหมดการเติบโตเต็มรูปแบบ แยกชัดพอร์ตสินทรัพย์เพื่อการขาย-รายได้ประโปรเจคยักษ์ “เจ้าพระยาเอสเตท” เริ่มเข้าสู่ช่วงของการเก็บเกี่ยว เผยในส่วนของโรงแรม เริ่ม Soft Launch ตั้งแต่เดือน ม.ค.63 ก่อนเปิดให้บริการลูกค้าทั่วไปเดือน มี.ค.นี้ ขณะที่โครงการที่อยู่อาศัยย่านะพระราม 3-โรงเรียนนานาชาติแบรนด์ดัง เตรียมเปิดตัวเร็วๆนี้
นายเบน เตชะอุบล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (CGD) เปิดเผยว่า แผนและกลยุทธ์การดำเนินงานในปี 2563 ของบริษัทฯ มุ่งมั่นในการจัดกลุ่มธุรกิจให้มีความชัดเจนขึ้น โดยแบ่งเป็นกลุ่มสินทรัพย์เพื่อสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอ และกลุ่มสินทรัพย์เพื่อขาย เพื่อการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืนในระยะยาว สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นและนักลงทุน
ทั้งนี้ ในส่วนของกลุ่มสินทรัพย์เพื่อสร้างการรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง (Income Assets) ประกอบด้วย โรงแรม โฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพ ณ แม่น้ำเจ้าพระยา และโรงแรม คาเพลลา กรุงเทพ
โดยที่โรงแรม โฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ ณ แม่น้ำเจ้าพระยาได้ทำการเปิด Soft Launch ไปแล้วตั้งแต่เดือนมกราคม 2563 และได้เปิดใช้งานห้องบอลรูมขนาดใหญ่ รวมถึงใช้พื้นที่เอ้าดอร์ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาจัดงานแต่งงานอย่างยิ่งใหญ่หลายงาน ได้รับความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม ส่วนการให้บริการสำหรับลูกค้าทั่วไปจะเริ่มในเดือนมีนาคม 2563 ซึ่งจะเปิดรับลูกค้าทั่วไปสำหรับห้องพักและห้องอาหาร ด้านโรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ จะเปิดตัวตามมาภายในครึ่งแรกของปี 2563
ส่วนกลุ่มสินทรัพย์เพื่อขาย( For Sale Asset) นั้น มีโครงการโฟร์ซีซั่นส์ ไพรเวท เรสซิเด้นซ์ กรุงเทพ ณ แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นโครงการที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรี่ มีมูลค่าโครงการ 21,000 ล้านบาท ได้มีการทยอยส่งมอบห้องแก่ลูกค้าตั้งแต่ปลายปี 2562 และยังทยอยส่งมอบห้องอย่างต่อเนื่องในปี 2563 นี้
ส่วนของโครงการใหม่ของทรัพย์สินเพื่อขายซึ่งก็คือ โครงการที่อยู่อาศัยที่พระราม 3 นั้นได้เตรียมเปิดตัวภายในปีนี้ และโครงการใหม่ของทรัพย์สินเพื่อสร้างการรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง คือ โรงเรียนนานาชาติ ก็อยู่ระหว่างเตรียมเปิดตัวเช่นเดียวกัน และมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าระดับบน เป็นอย่างดี
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CGD กล่าวอีกว่า มีความมั่นใจว่าในปี 2563นี้จะเป็นปีที่บริษัทเติบโตสูง ซึ่งเป็นผลจากการมุ่งมั่นดำเนินการตามแผนและกลยุทธ์ของบริษัทและจะส่งผลต่อความยั่งยืนในด้านรายได้ของบริษัทในระยะยาว
