ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ซีฟโก้ หรือ SEAFCO ประกอบธุรกิจรับก่อสร้างงานเสาเข็มเจาะ งานรากฐานแลพงานโยธาทั่วไป โดย “นายณรงค์ ทัศนนิพันธ์” กรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยว่า บริษัทคว้างานใหม่ 2 โครงการ ในเดือน ม.ค. 63 รวมมูลค่า 323.4 ล้านบาท ได้แก่ 1.โครงการโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี่ (ส่วนขยาย), ถ.เจริญกรุง กรุงเทพฯ ผู้ว่าจ้าง โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรีกรุงเทพ
ส่วน 2. โครงการ ทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ด้านตะวันตก,พระราม 3 -ดาวคะนอง กรุงเทพฯ ผู้ว่าจ้าง บริษัท ช.การช่าง จํากัด (มหาชน) จะดําเนินการก่อสร้างกลาง เดือน มี.ค.63
ทั้งนี้ตลอดทั้งปี 63 บริษัทจะทยอยรับงานใหม่ๆต่อเนื่อง โดยปัจจุบันบริษัทได้เข้าร่วมประมูลงาน 117 โครงการ มูลค่ารวม 2.11 หมื่นล้านบาท ซึ่งมีโครงการที่ประกาศและในส่วนของ SEAFCO ได้งานมาแล้วมูลค่ารวม 924 ล้านบาท หรือคิดเป็น 4.36% ขณะที่คู่แข่งได้งานรวม 2,420 ล้านบาท หรือคิดเป็น 14.44% ของมูลค่าโครงการรวม ขณะที่ยังมีงานค้างท่อเหลืออีกมูลค่ารวม 17,817 ล้านบาท หรือราว 84.20%
สำหรับในปี 63 บริษัทมีโอกาสได้รับงานเพิ่ม จากโครงการที่ติดตามอีก 32 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 1.99 หมื่นล้านบาท ซึ่งคิดเป็นมูลค่างานเสาเข็มประมาณ 3-5% ของมูลค่างานโครงการ อาทิ งานรถไฟรางคู่ 12 แห่ง, งานรถไฟไฮสปีดเทรน, งายมอเตอร์เวย์ 7 โปรเจค, งานรถไฟฟ้า 6 โปรเจค และงานรถไฟฟ้าชานเมือง ดังนั้นทั้งปี 63 มั่นใจผลงานจะทำนิวไฮต่อเนื่อง โดยตั้งเป้ารายได้กว่า 3 พันล้านบาท ประกอบบริษัทมีโอกาสเข้าร่วมงานประมูลใหญ่ๆมากขึ้น
ด้าน “บล.หยวนต้า(ประเทศไทย)” เปิดเผยว่า แนะนำ “เก็งกำไร” SEAFCO ราคาเหมาะสมที่ 9 บาท คาดผลประกอบการไตรมาส 1/63 จะกลับมาพลิกฟื้นและเติบโตอีกครั้ง จากงาน “โครงการดุสิต เซ็นทรัล ปาร์ค” ที่เห็นความคืบหน้าเพิ่ม (มูลค่าโครงการ 900 ล้านบาท คิดเป็น 33% ของงานในมือ ปัจจุบันที่ 2.7 พันล้านบาท) และยังมีงานที่อยู่ระหว่างทำคือ Bangkok Mall หนุนรายได้ ขณะที่ระดับมาร์จิ้นอาจทำได้ระดับ 17-19% เนื่องจากงาน “โครงการดุสิต เซ็นทรัลปาร์ค” เป็นงานที่รวมค่าแรงและค่าของซึ่งมีมาร์จิ้นน้อยกว่างานรถไฟฟ้า
ทั้งนี้ SEAFCO มีโอกาสรับงานต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมอ ทั้งจากกลุ่มผู้ประกอบการที่อยู่อาศัยคอนโดมีเนียม และกลุ่มผู้ประกอบการ Mixed Used เช่นโครงการของ STEC และในโอกาสรับงานภาครัฐ จากโครงการรถไฟความเร็วสูง 3 สนามบิน ซึ่งบริษัทมีความสัมพันธ์ที่ดีกับ CK รวมถึงโอกาสรับงานในประเทศเมียนมาร์ ขณะที่มีแรงกดดันระยะสั้นจากผลประกอบการไตรมาส 4/62ที่อ่อนแอ ราคาเหมาะสมปี 63 ที่ 9 บาท (อ้างอิง PE ที่ 17 เท่า น้อยกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีที่ 19 เท่า)
www.mitihoon.com