ปตท. ร่วมแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 จัดทีมสำรวจโรงงานในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล

368

มิติหุ้น-ให้บริการตรวจสภาพเครื่องจักรด้วย “โครงการส่งเสริมการใช้ก๊าซธรรมชาติในโรงงานอุตสาหกรรม” พร้อมให้คำปรึกษาเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการเผาไหม้เชื้อเพลิง และสนับสนุนปรับเปลี่ยนใช้พลังงานสะอาด ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 มีนาคม 2563

นายวุฒิกร สติฐิต รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เกินมาตรฐาน ปตท. มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ดังกล่าวมาโดยตลอด หน่วยธุรกิจก๊าซฯ ปตท. จึงริเริ่ม โครงการส่งเสริมการใช้ก๊าซธรรมชาติในโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อลดฝุ่นละออง PM 2.5 ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล” เป็นครั้งแรก  ด้วยเล็งเห็นถึงโอกาสในการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมหันมาใช้พลังงานสะอาด และปรับปรุงประสิทธิภาพกระบวนการทำงานของเครื่องจักร ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมแก้ไขและป้องกันปัญหาดังกล่าวในระยะยาว

ในโครงการฯ ปตท. จะให้บริการสำรวจพื้นที่และตรวจประเมินเครื่องจักร โดยเจ้าหน้าที่จาก ปตท. เพื่อให้คำปรึกษา ปรับปรุงประสิทธิภาพการเผาไหม้ของเครื่องจักร และพร้อมสนับสนุนหากโรงงานใดมีความพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนเชื้อเพลิงเป็นพลังงานสะอาดอย่างก๊าซธรรมชาติ ซึ่งปล่อยมลพิษ PM 2.5 น้อยกว่า เมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงฟอสซิลชนิดอื่นๆ โดยการให้บริการดังกล่าว เบื้องต้นจะเน้นโรงงานอุตสาหกรรมที่ใช้รูปแบบเชื้อเพลิงและปริมาณการใช้ตามเงื่อนไขที่กำหนด และตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งเป็นกลุ่มจังหวัดที่มีประชากรหนาแน่น อีกทั้งได้รับผลกระทบจากฝุ่นละออง PM2.5 มาก โดยโรงงานอุตสาหกรรมที่เข้าร่วมโครงการฯ จะไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ผู้สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการฯ ได้ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2563 สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ส่วนบริการลูกค้าก๊าซฯ ปตท. โทร. 02-537-2535-9 หรือ email : dscng@pttplc.com

“ปตท. พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาสิ่งแวดล้อม ลดปัญหามลพิษจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ด้วยการสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด และมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิง ด้านการปรับปรุงมาตรฐานรถยนต์และคุณภาพน้ำมันดีเซล ด้านการรณรงค์ปลูกจิตสำนึกและสร้างการตระหนักรู้เรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รวมถึงสร้างพลังงานทางเลือกที่ดีกว่าให้แก่ผู้ประกอบการและผู้บริโภค เพื่อให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน” นายวุฒิกร กล่าวเสริม