S ทุ่มงบ 5 ปีกว่า 6.8 หมื่นลบ. ขยายฐานธุรกิจ ซุ่มดีล M&A พร้อมรุกพลังงานทดแทน

140

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.สิงห์ เอสเตท หรือ S โดยนายนริศ เซยกลิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจในช่วง 5 ปี (63-67) บริษัทฯ มีแผนลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยเตรียมงบลงทุน 68,000 ล้านบาท เพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว โดยแผน 5 ปี ครอบคลุมการลงทุน ธุรกิจที่พักอาศัยจำนวน 30 โดรงการ คิดเป็นมูลค่ารวม 37,500 ล้านบาท ธุรกิจคอมเมอร์เชียลหรืออาคารสำนักงานให้เช่า 4 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวม 8,500 ล้านบาท และการลงทุนในธุรกิจโรงแรม มูลค่ารวม 22,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจัยในการตัดสินใจลงทุน ได้แก่ สินทรัพย์ที่มีคุณภาพ อยู่ในท้าเลที่ดี และมีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว

ขณะที่ภาพรวมทิศทางธุรกิจในปี 63 จะเป็นปีที่บริษัทฯ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในกลุ่มธุรกิจที่พักอาศัย ซึ่งรวมทั้ง S และ บมจ. เนอวานา ไดอิ หรือ NVD บริษัทในเครือ ในปีนี้มีแผนจะเปิดตัว 6 โครงการใหม่ มูลค่า 10,000 ล้านบาท พร้อมทั้งเปิดแบรนด์ใหม่ 5 แบรนด์ ทั้งแนวราบและแนวสูง โดยตั้งเป้ายอดขายรวมกว่า 8,000 ล้านบาท ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมี Backlog ที่จะโอนในปี 63 มากกว่า 6,000 ล้านบาท อาทิ จะมีการโอน ดิ เอส สุขุมวิท 36 (THE ESSE SUKHUMVIT 36) และโครงการอื่น ๆ

 

ในส่วนธุรกิจคอมเมอร์เชียลหรืออาคารสำนักงานให้เช่ามั่นใจจะได้รับรายได้จากค่าเช่าพื้นที่ที่จะเติบโตขึ้นจาก อาคารสิงห์ คอมเพล็กซ์ (SINGHA COMPLEX) และอาคารสำนักงานเมโทรโพลิส (METROPOLIS) โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีอาคารสำนักงาน 3 แห่ง คือ อาคารซันทาวเวอร์ส, อาคารสิงห์ คอมเพล็กซ์ และอาคารเมโทรโพลิส ซึ่งทุกอาคารมีอัตราการเช่าสงกว่า 90% ซึ่งภายใน 5 ปี บริษัทฯ ตั้งเป้าจะมีพื้นที่อาคารเชิงพาณิชย์ 300,000 ตารางเมตร จากปัจจุบันที่มี 140,000 ตารางเมตร โดยบริษัทฯ เตรียมงบลงทุน 8,500 ล้านบาท สำหรับซื้อเพิ่มอีก 4 โครงการ รวมถึงพัฒนาโครงการเอส โอเอซิส (S Oasis) ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานแห่งใหม่ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 64

สำหรับธุรกิจโรงแรมภายใต้ บมจ.เอส โฮเทล แอนต์ รีสอร์ท หรือ SHR ตามแผนธุรกิจปี 68 ตั้งเป้าขยายธุรกิจสองเท่าตัว หรือเติบโต 15% ต่อปี โดยเพิ่มจำนวนโรงแรมขึ้นจาก 39 โรงแรม เป็น 80 โรงแรม  ซึ่งในปีที่ผ่านมาได้มีการเปิดตัวโครงการเมกะโปรเจ็กต์ “ครอสโร้ดส์” ที่ประเทศมัลดีฟส์ มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท ประกอบไปด้วย เดอะ มารีน่า แอท ครอสโร้ดส์” ที่มีท่าเรือยอร์ซลักชัวรี พร้อมกับพื้นที่รวมร้านค้า ร้านอาหารชื่อดัง ศูนย์เรียนรู้ทางวัฒนธรรม ศูนย์เรียนรู้ทางทะเล บนพื้นที่ 11,000 ตารางเมตร และโรงแรมสองแห่งคือ โรงแรมฮาร์ด ร็อค โฮเทล มัลดีฟส์ , โรงแรมทราย ลากูน มัลดีฟส์ คูริโอ คอลเล็กชั่น บาย ฮิลตัน ซึ่งในปี 63 โครงการจะรับรู้รายได้เต็มปี โดยตั้งเป้ารายได้โครงการมากกว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งรายได้จากโครงการนี้ เป็นส่วนสำคัญในการสร้างการเติบโดอย่างก้าวกระโดดให้กับ SHR

นอกจากนี้ SHR ยังได้เตรียมงบลงทุน 5 ปี กว่า 22,000 ล้านบาท เพื่อซื้อโรงแรมและรีสอร์ทเพิ่มเติม โดยยังคงเน้นการลงทุนในพื้นที่ที่เป็น Tourist Destinat on ที่สำคัญ เช่น เอเชียแปซิฟิก และเมติเตอร์เรเนียน เป็นต้น โดย SHR มี Platform การบริหารจัดการที่สามารถรองรับการขยายธุรกิจหลากหลายรูปแบบ เพื่อสร้างการเติบโตในระดับสากลได้อย่างรวดเร็ว

ในส่วนการลงทุนบริษัทฯ ยังมีแผนสร้างรายได้ประจำจาก
อาคารสำนักงานและโรงแรม โดยเตรียมงบลงทุนในการเข้าซื้อกิจการ (M&A) ในปี 63 กว่า 5,000 ล้านบาท รวมถึง จะเริ่มพัฒนาธุรกิจใหม่อย่างพลังงานทดแทน (Renewable energy) ในปี 63 โดยคาดจะเริ่มพัฒนาในระดับ 10 เมกะวัตต์ (MW) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการในตลาด และต่อยอดจากการเป็น Global Holding Company

www.mitihoon.com