SCN ตั้งเป้า บ.ลูก เซ็นสัญญาลูกค้าติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปเพิ่มแตะ 30 MW มูลค่าลงทุนรวม 900 ลบ. หนุนสร้างรายได้ให้บริษัทราว 120 ลบ.

293

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.สแกน อินเตอร์ หรือ SCN โดยดร.ฤทธี กิจพิพิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า จากบริษัทได้ร่วมกับพันธมิตรทางด้านพลังงานทดแทน จัดตั้งบริษัท สแกน แอดวานซ์ พาวเวอร์ จำกัด เพื่อพัฒนาและผลิตพลังงานสะอาดขึ้นมาเพื่อเข้าร่วมลงทุนในสัญญาซื้อขายไฟภาคเอกชน (Private PPA) และสัญญาเช่าโครงการโซลาร์รูฟท็อป โดยในปี 62 ได้มีการลงนามกับผู้ประกอบการไปแล้วจำนวน 8 ราย กำลังผลิตรวม 4 MW ซึ่งล่าสุดบริษัทฯ พร้อมกับ บริษัท สแกน แอดวานซ์ พาวเวอร์ จำกัด ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าภาคเอกชน (Private PPA) ระหว่างบริษัทสแกน แอดวานซ์ พาวเวอร์ จำกัด กับผู้ประกอบการภาคเอกชนจำนวน 7 ราย ประกอบไปด้วย 1.บริษัท ไทยเปเปอร์มิลล์ จำกัด 2.บริษัท สมบูรณ์ แพ็คเกจจิ้ง (888) จำกัด 3.บริษัท กาญจนาเฟรชพอร์ค จำกัด 4.บริษัท อินโนเวชั่นฟุ้ตแวร์ จำกัด 5.บริษัท ห้องเย็นท่าข้าม จำกัด 6.บริษัท โบลท แอนด์ นัท อินดัสตรี้ จำกัด 7.บริษัท สหชัยซีฟู้ด จำกัด โดยมีกำลังการผลิตรวม 6 MW มูลค่าการลงทุนประมาณ 180 ล้านบาท โดยจะเริ่มดำเนินการติดตั้งให้เสร็จสิ้นภายใน ไตรมาสที่ 2/63 และจะเริ่มทะยอยจ่ายไฟได้ในไตรมาสที่ 2 นี้

ด้านคุณสารชา ตรัสโฆษิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สแกน แอดวานซ์ พาวเวอร์ จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันยังมีลูกค้าให้ความสนใจติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปเป็นจำนวนมาก ขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจา ตั้งเป้าภายในสิ้นปี 63 นี้ จะได้กำลังผลิตเพิ่มอีก 20 MW ทำให้กำลังการผลิตรวมตั้งแต่ปี 62 ถึงปี 63 อยู่ที่ 30 MW คาดมูลค่าการทุนรวมประมาณ 900 ล้านบาท และจะสร้างรายได้ให้กับบริษัทกว่า 120 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทได้วางแผนธุรกิจในระยะเวลา 5 ปี ตั้งเป้าจะมีกำลังการติดตั้งระบบผลิตพลังงานไฟฟ้าที่ได้มาจากแสงอาทิตย์รวม 110 MW โดยแบ่งออกเป็น 10 MW, 20 MW, 20 MW,30 MW และ 30 MW สำหรับปีที่ 1,2,3,4 และ 5 ตามลำดับ มีมูลค่าการลงทุนอยู่ที่ประมาณ 3,000 ล้านบาท และจะสร้างรายได้กว่า 500 ล้านบาท

“บริษัทไม่ปิดกั้นที่จะลงทุนในพลังงานหมุนเวียนประเภทอื่นๆ โดยที่บริษัทยังคงมองหาการลงทุนในพลังงานประเภทต่างๆ ที่จะสามารถพัฒนาประสิทธิภาพการใช้พลังงานเพื่อการใช้งานอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต และยังยังมุ่งเน้นโซลาร์รูฟท็อปเป็นหลักเช่นกัน ตั้งเป้าจะเป็นผู้นำในการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปแบบครบวงจร ที่จะเป็นกำลังสำคัญในการช่วยผู้ประกอบการลดภาระค่าใช้จ่ายและยังช่วยลดปริมาณการการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ได้ถึงปีละ 2,600 ตัน และเปรียบเสมือนเป็นการปลูกต้น 300,000 ต้นต่อปี จากกำลังการติดตั้ง 10 MW นี้อีกด้วย” คุณสารชา กล่าว

www.mitihoon.com