มิติหุ้น-กนง. มีมติเอกฉันท์ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายมาอยู่ที่ 1.00% จากเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้เดิมมาก และค่าเฉลี่ยอัตราเงินเฟ้อปี 2020 และ 2021 ที่มีแนวโน้มต่ำกว่ากรอบเป้าหมาย ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2019 คณะกรรมการฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก 1.25% เป็น 1.00% ต่อปี เนื่องจาก
เศรษฐกิจไทยในปี 2020 มีแนวโน้มขยายตัว “ต่ำกว่าประมาณการเดิมและต่ำกว่าระดับศักยภาพมากขึ้นมาก” เป็นผลจาก 1) การระบาดของไวรัสโคโรนา 2) พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีที่มีความล่าช้าและความไม่แน่นอนสูง และ 3) ภาวะภัยแล้ง โดยปัจจัยเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจและการจ้างงานที่เกี่ยวข้องหลายด้าน คือ
ด้านอุปสงค์จากต่างประเทศ : ในการประชุม กนง. เดือน ธันวาคม 2019 คณะกรรมการมองว่าภาคการส่งออกไทยในปี 2020 จะยังขยายตัวได้ที่ 0.5% อย่างไรก็ดี ด้วยปัจจัยเสี่ยงที่กล่าวข้างต้น ทำให้ล่าสุด กนง. ประเมินว่า ภาคการส่งออกสินค้าไทยมีแนวโน้มหดตัวลงตามเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับห่วงโซ่การผลิตในภูมิภาค ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวมีแนวโน้มปรับลดลงจากประมาณการเดิมมากเช่นกัน
ด้านอุปสงค์ภายในประเทศ : การใช้จ่ายของภาครัฐโดยเฉพาะงบลงทุนมีแนวโน้มต่ำลงตาม พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีที่มีความล่าช้าและความไม่แน่นอนสูง นอกจากนี้ การบริโภคภาคเอกชนยังได้รับแรงกดดันจากรายได้ครัวเรือนที่มีแนวโน้มชะลอลงมากขึ้นทั้งครัวเรือนในภาคบริการ เกษตร และอุตสาหกรรม รวมถึงหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง
อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยทั้งในปี 2020 และ 2021 มีแนวโน้มต่ำกว่าขอบล่างของกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อตลอดช่วงประมาณการ จากอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ชะลอลงตามอุปสงค์ในประเทศที่อยู่ในระดับต่ำ รวมถึงราคาพลังงานที่ต่ำกว่าคาด เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันมีแนวโน้มปรับลดลงจากการระบาดของไวรัสโคโรนา
เสถียรภาพระบบการเงินเปราะบาง “เพิ่มขึ้น” จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะความสามารถในการชำระหนี้ของภาคครัวเรือนและธุรกิจ SMEs ซึ่ง กนง. มองว่านโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น และมาตรการการคลังต่าง ๆ ที่ได้ดำเนินการไปจะช่วยลดผลกระทบจากปัจจัยลบ
ที่เกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนสภาพคล่องและการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้กับภาคธุรกิจและครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ทั้งนี้คณะกรรมการสื่อสารว่า จะติดตามผลของมาตรการต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด
กนง. ประเมินว่า ภาวะการเงินที่ผ่านมาอยู่ในระดับผ่อนคลาย แม้สินเชื่อภาคธุรกิจยังมีแนวโน้มชะลอตัวลง นอกจากนี้ กนง. ยังคงแสดงความกังวลต่อสถานการณ์เงินบาทแม้จะปรับอ่อนค่าลงบ้าง อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงอยู่ในระดับต่ำ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับลดลง แต่สินเชื่อภาคธุรกิจมีแนวโน้มชะลอตามแนวโน้มเศรษฐกิจ ในด้านอัตราแลกเปลี่ยน แม้เงินบาทจะปรับอ่อนค่าลงบ้างเทียบกับประเทศคู่ค้าคู่แข่ง แต่ยังอาจไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจไทย และในระยะต่อไปยังมีแนวโน้มผันผวน