GUNKUL ควัก 1,867 ลบ. ซื้อหุ้น “An Yang”และ “Yun Yang” ลุยโรงไฟฟ้าโซลาร์เวียดนาม ขนาด 60MW ถือหุ้นรวม 99.94%

84

มิติหุ้น-บอร์ด บมจ. กันกุลเอ็นจิเนิยริ่ง (GUNKUL) อนุมัติบริษัทย่อย ไบร์ท กรีน พาวเวอร์ ทำรายการซื้อหุ้น An Yang และ Yun Yang มูลค่ารวม 1,867.38 ล้านบาท เข้าถือหุ้นใหญ่ 99.94% ถือครองสิทธิ์โรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม 2 โครงการ กำลังการผลิตรวม 60 เมกะวัตต์ ด้าน “ โศภชา ดำรงปิยวุฒิ์” ระบุช่วยหนุนการเติบโตด้านสินทรัพย์ และผลประกอบการในอนาคต ทั้งเป็นก้าวสำคัญขึ้นสู่ความเป็นผู้นำด้านธุรกิจพลังงานทดแทน รวมถึงมีส่วนร่วมในการผลักดันให้เกิดโรงไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศ

นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน)  หรือ GUNKUL เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้บริษัท  ไบร์ท กรีน พาวเวอร์  จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เข้าทำรายการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวน 2 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตรวม 60 เมกะวัตต์  ได้แก่  โครงการ Tri Viet  1 Solar Power Plant และ โครงการ Bach Khoa A Chau 1 Solar Power Plant ในจังหวัด Tay Ninh ประเทศเวียดนาม โดยเข้าซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัท Singapore An Yang Pte. Ltd. (An Yang) และ Singapore Yun Yang Pte. Ltd. (Yun Yang) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นของโครงการฯ  ด้วยมูลค่าการลงทุนโครงการละ 30,300,000.00 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ  รวม 60,600,000.00 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 1,867,389,000 บาท

การเข้าซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของ An Yang และ Yun Yang  ส่งผลทำให้บริษัทฯ เข้าถือหุ้นในแต่ละโครงการคิดเป็น 99.94%   ซึ่งทั้ง 2 โครงการ มีอัตรารับซื้อไฟฟ้ารูปแบบ Feed-in Tariff ที่ 0.0935 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อหน่วย เป็นระยะเวลา 20 ปี และโครงการนี้ได้เริ่มจำหน่ายไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์แล้วเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2562 ซึ่งสามารถสร้างผลตอบแทนได้ตามนโยบายการลงทุนของบริษัทฯ โดยจะมีรายได้ค่าไฟประมาณ 300 ล้านบาทต่อปี

“การเข้าซื้อหุ้นสามัญของ An Yang และ Yun Yang  เพื่อลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศเวียดนามที่ได้เริ่มจำหน่ายไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์แล้ว ซึ่งนอกจากจะเป็นการขยายฐานการดำเนินงานของบริษัทฯ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว ยังเป็นการส่งเสริมการเติบโตของบริษัทฯ ทั้งในด้านสินทรัพย์และผลประกอบการโดยบริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้และผลตอบแทนจากการประกอบกิจการโรงไฟฟ้าดังกล่าวได้ทันทีหลังเข้าลงทุน อีกทั้งยังเป็นการดำเนินตามนโยบายของบริษัทฯ ที่จะมีจำนวนเมกะวัตต์สะสมเพิ่ม และมีส่วนร่วมในการผลักดันให้เกิดโรงไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งบริษัทฯ เล็งเห็นว่าเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง และมีความเสี่ยงต่ำ ตลอดจนสามารถสร้างแหล่งที่มาของรายได้ให้แก่กลุ่มบริษัทฯ ได้อย่างมั่นคงและต่อเนื่องในระยะยาว” นางสาวโศภชากล่าวในที่สุด