TASCO แนวโน้มสดใส กำไรโตก้าวกระโดด (12/02/63)

337

มิติหุ้น- TASCO โบรกส่องพิกัดผลงานไตรมาส 4/62 โตก้าวกระโดด 949% ด้านผู้บริหาร ” ชัยวัฒน์ ศรีวรรณวัฒน์”ตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 2.2 ล้านตัน ขณะที่ตลาดจีน ,อินโดนีเซีย ,มาเลเซีย ,ออสเตรเลีย และเวียดนาม ยังเติบโตฉลุย เคาะราคาเป้าหมาย 25.00 บาท

ผู้สื่อข่าว มิติหุ้น รายงานว่า บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด แนะนำ “ซื้อ” หุ้น บริษัท บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) TASCO ราคาเป้าหมาย 25.00 บาท โดยคาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 4/2562 เติบโตก้าวกระโดด +949% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนแต่อ่อนลง -14% ไตรมาสก่อนหน้าเป็น 542 ล้านบาท แต่ไตรมาสนี้จะมีรายรับค่าเคลมประกัน 146 ล้านบาทจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ถังเก็บน้ำมัน KBC เมื่อปีก่อน ทำให้กำไรสุทธิบรรทัดสุดท้ายคาดว่าจะอยู่ที่ 688 ล้านบาท (+417%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน, -3% ไตรมาสก่อนหน้า)

ทั้งนี้งวดไตรมาส 4/2561 กำไรบริษัทต่ำมากเพราะขาดแคลนวัตถุดิบและได้รับผลกระทบจากไฟไหม้ถังเก็บน้ำมัน KBC ในไตรมาส 3/2561 รวมถึงมีขาดทุนในสต็อกด้วย

แนวโน้มยังสดใส

สำหรับแนวโน้มปี 2563 ยังสดใส คาดการณ์กำไรสุทธิเติบโตได้ 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนโดยคาดว่าปริมาณขายปี  2563 จะเพิ่ม +6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็น 2.2 ล้านตัน, มีวัตถุดิบเพียงพอในการผลิต ขณะนี้มีวัตถุดิบสำหรับผลิตถึงกลางปี 63 แล้ว คาดว่าบริษัทจะได้รับมอบวัตถุดิบ 15 Shipments ในปีนี้

นอกจากนี้ยังได้ประโยชน์จาก IMO 2020 เพราะอุปทานยางมะตอยในปีนี้จะตึงตัวขึ้น ราคาจึงมีโอกาสขยับขึ้นได้ ทั้งนี้ SK Energy จะลดปริมาณการผลิตยางมะตอย 0.8-0.9 ล้านตันภายในพ.ค. 2563 และ TOP จะลดการผลิต 0.5 ล้านตันภายในปี 2566 ดังนั้นแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาพื้นฐาน 25 บาท โดยอิงกับ P/E ปี 63F ที่ 15 เท่า

บิ๊กการันตี

ด้านนายชัยวัฒน์ ศรีวรรณวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ TASCO กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า บริษัทคาดปริมาณขายยางมะตอยปี 63 จะเติบโตเป็นไม่ต่ำกว่า 2.2 ล้านตัน จากปีก่อนอยู่ที่ระดับ 2.2 ล้านตัน โดยการเติบโตของปริมาณขายจะมาจากความต้องการใช้ยางมะตอยที่เพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ขณะที่ตลาดต่างประเทศยังเติบโตได้ดี โดยเฉพาะตลาดจีน ,อินโดนีเซีย ,มาเลเซีย ,ออสเตรเลีย และเวียดนาม ซึ่งบริษัทเตรียมเปิดคลังยางมะตอยเพิ่มเติมในต่างประเทศ ซึ่งจะทำให้ส่วนแบ่งการตลาดในต่างประเทศเพิ่มขึ้น และยังช่วยเพิ่มยอดขายในเอเชียตะวันออกให้มากขึ้นด้วย

พร้อมกันนี้บริษัทคาดว่าสัดส่วนรายได้จากในประเทศจะ เพิ่มขึ้นมาที่ 25% จาก 20% ในปัจจุบัน ส่วนรายได้จากต่างประเทศจะอยู่ที่ 75% จาก 80% ในปัจจุบัน

www.mitihoon.com