ADVANC เปิดแผนยุทธศาสตร์ 5G มุ่งขยายการใช้งานสู่ภาคอุตสาหกรรม และพื้นที่ EEC เสริมแกร่งศักยภาพประเทศ

106

มิติหุ้น – AIS รุกประกาศแผนยุทธศาสตร์ 5G หลังชนะการประมูลคว้าคลื่น 5G จำนวนมากที่สุด ครบทั้ง 3 ย่านความถี่ 700 MHz, 2600 MHz และ 26 GHz เสริมศักยภาพผู้นำเครือข่ายดิจิทัลอันดับ 1 ตัวจริง พร้อมนำ 5G พลิกโฉมการยกระดับประเทศไทยไปอีกขั้น สร้าง Big Move ก้าวย่างครั้งยิ่งใหญ่ในการเปลี่ยนแปลงและทรานส์ฟอร์มทุกภาคส่วน ทั้งภาคผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรม จากนวัตกรรมและเทคโนโลยีอัจฉริยะ 5G ที่ดีที่สุด เพื่อยกระดับความแข็งแกร่งของโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของประเทศไทย

นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป เอไอเอส เปิดเผยว่า “จากวิสัยทัศน์ของเราที่มุ่งมั่นนำเทคโนโลยีดิจิทัลมายกระดับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ เอไอเอสจึงตั้งใจอย่างยิ่งในการเข้าประมูลคลื่น 5G แบบเต็ม Block ในทุกย่านความถี่ โดยมีครบทั้งย่านความถี่ต่ำ ย่านความถี่กลาง และย่านความถี่สูง ครอบคลุมการใช้งานทุกรูปแบบ ประกอบด้วย คลื่น 700 MHz จำนวน 30 MHz (2×15 MHz), คลื่น 2600 MHz จำนวน 100 MHz และคลื่น 26 GHz จำนวน 1200 MHz รวมคลื่นความถี่ 5G ทั้งหมดอยู่ที่ 1330 MHz และเมื่อรวมกับคลื่นความถี่เดิมที่ AIS มีจำนวนมากที่สุดอยู่แล้ว ส่งผลให้เอไอเอสยังคงยืนหยัด ผู้นำอันดับ 1 ที่มีคลื่นความถี่ในการให้บริการ 4G และ 5G มากที่สุดในอุตสาหกรรม รวม 1420 MHz (ไม่รวมความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์) ซึ่งหมายความว่า เราจะมีขีดความสามารถที่จะส่งมอบบริการและโซลูชันส์คุณภาพดีที่สุด จากปริมาณคลื่นความถี่ซึ่งเทียบเท่ามาตรฐานของผู้ให้บริการระดับโลก หรือ World’s Best-In-Class ที่ต่างเตรียมปริมาณแบนด์วิธอย่างน้อย 100 MHz ขึ้นไปทั้งสิ้น เพื่อให้สามารถนำมาสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับประเทศได้มากยิ่งกว่าใครในอุตสาหกรรม ทั้งนี้หมายรวมถึงคุณภาพการให้บริการในภาพรวมจาก 4G ปัจจุบันของเอไอเอสด้วยเช่นกัน”

“เพราะ 5G คือ เทคโนโลยีที่จะยกระดับภาคอุตสาหกรรมและสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ให้แข็งแกร่งและนำพาประเทศไทยให้ก้าวไปอีกขั้นตามเจตนารมณ์ของภาครัฐ ที่ผ่านมา เอไอเอสจึงร่วมทดลอง ทดสอบกับพันธมิตรในภาคอุตสาหกรรม Sector หลักๆมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ ภาคการผลิต, ภาคขนส่ง, ภาคคมนาคม, ภาคสาธารณสุข, ภาคการศึกษา,ฯลฯ จนมีความรู้และประสบการณ์ที่สามารถจะนำมาสร้างสรรค์รูปแบบบริการได้อย่างตอบโจทย์และมีประสิทธิภาพมากที่สุดได้ทันที ดังนั้นวันนี้ จึงพร้อมนำ 5G เข้าไปสู่ภาคอุตสาหกรรมอย่างจริงจัง เพื่อปฏิวัติการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม (Growth Revolution) อย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ EEC ซึ่งได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับองค์กรชั้นนำในพื้นที่อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น สนามบินอู่ตะเภา, ท่าเรือแหลมฉบัง, อมตะนคร, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ศรีราชา, ฯลฯ”

นายปรัธนา กล่าวเพิ่มเติมว่า “ส่วนในด้านผู้บริโภคนั้น เราก็พร้อมส่งมอบประสบการณ์จากเทคโนโลยี 5G ที่ดีที่สุดเช่นกัน โดยยืนยันได้จากความร่วมมือกับพันธมิตรผู้ผลิตสมาร์ทโฟนชั้นนำระดับโลกทุกราย ที่จะให้คนไทยได้สัมผัสกับไลฟ์สไตล์การเชื่อมต่อโลกออนไลน์ที่เร็ว แรง เสถียร เหนือระดับยิ่งกว่าใคร โดยวันนี้ เอไอเอสได้เริ่มเปิดสัญญาณ 5G เป็นรายแรก เพื่อทดลองทดสอบ 5G บนคลื่นความถี่ 2600 MHz บนเครือข่ายจริง ณ สถานที่จริง อาทิ สยามพารากอน, เซ็นทรัลเวิลด์, แยกอโศก รวมถึงในเขตภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อให้มั่นใจว่า ลูกค้าจะได้รับบริการ 5G ที่ดีที่สุด ก่อนเปิดให้บริการจริงในเร็วๆนี้ รวมถึงยังเริ่มเชิญลูกค้ากลุ่มแรกให้มาร่วมทดลองทดสอบ เพื่อสร้างประสบกรณ์ 5G ที่ดีที่สุดไปด้วยกัน พร้อมเตรียมโซน 5G Trial ให้ลูกค้าและประชาชนได้เข้ามาลองสัมผัสกับเครือข่ายและอุปกรณ์ดีไวซ์ 5G ที่ AIS Flagship Store เซ็นทรัลเวิลด์ และ สยามพารากอน ตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป”

ด้าน นายวสิษฐ์ วัฒนศัพท์ หัวหน้าฝ่ายงานปฏิบัติการและสนับสนุนด้านเทคนิคทั่วประเทศ เอไอเอส เปิดเผยข้อมูลด้านเทคนิคเครือข่ายเพิ่มเติม ว่า “วันนี้ เครือข่าย AIS 5G คือ เครือข่าย 5G ที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศ เพราะนอกจากจะเป็นเพียงรายเดียวที่มีจำนวนคลื่นมากที่สุดในแต่ละย่านแล้ว ยังเป็นเพียงรายเดียวในอุตสาหกรรมที่มีปริมาณแบนด์วิธภาพรวมในระดับ World’s Best-In-Class ตามมาตรฐานของผู้ให้บริการระดับโลกที่ต่างมีแบนด์วิธในปริมาณอย่างน้อย 100 MHz ขึ้นไป อันจะส่งผลให้เครือข่ายของเรามีขีดความสามารถในการสร้างสรรค์ ออกแบบ Solutions , ปรับเปลี่ยน,Tailor Made เพื่อตอบโจทย์แต่ละอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะในภาพรวมเครือข่าย AIS 5G จะมีความเร็ว Speed ที่สูงกว่าถึง 24 เท่าและมีขีดความสามารถในการรองรับการใช้งาน Capacity ที่มากกว่าถึง 30 เท่า และมี Latency ต่ำกว่าเดิมถึง 10 เท่า”

“ด้วยมาตรฐานเทคโนโลยี 5G โดย 3GPP [1] ระบุว่า คลื่น 700 MHz จะใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพสูงสุด ที่จำนวนเต็ม 30 MHz (2×15 MHz) จึงเป็นที่มาของความตั้งใจในการเข้าประมูลย่าน 700 MHz เพิ่มอีก 10 MHz (2×5 MHz) จากเดิมที่มีอยู่แล้ว 20 MHz (2×10 MHz) รวมเป็น 30 MHz (2×15 MHz) ในขณะที่ คลื่น 2600 MHz ต้องมีจำนวน 100 MHz จึงจะใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพเช่นกัน ส่วนคลื่น 26 GHz ต้องมีจำนวน 400 MHz ต่อ 1 Block จึงจะสามารถให้บริการ 5G ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการรองรับดิจิทัลโซลูชันส์ให้กับภาคอุตสาหกรรมในอนาคตนั่นเอง” นายวสิษฐ์กล่าว

“วันนี้ เอไอเอส ขอยืนยันว่าด้วยความพร้อมของบริษัท รวมถึงขีดความสามารถของบุคลากร ที่มีทั้งความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ และความมุ่งมั่นตั้งใจ ตลอดจนการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ในทุกอุตสาหกรรมอย่างใกล้ชิด จะทำให้เอไอเอสสามารถส่งมอบบริการ 5G ที่มีคุณภาพดีที่สุด พร้อมเป็นกลจักรสำคัญที่จะพลิกโฉมประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างแข็งแกร่ง ก้าวสู่ Digital Intelligent Nation ได้อย่างสมบูรณ์แบบแน่นอน” นายปรัธนา กล่าวในตอนท้าย