ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.บ้านปู หรือ BANPU โดย “นางสมฤดี ชัยมงคล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า ปี 62 บริษัทพลิกขาดทุนสุทธิ 552.8 ล้านบาท ลดลง 108% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 6,693.73 ล้านบาท จากภาวะราคาตลาดของกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ด้านพลังงาน ประกอบด้วย “ราคาถ่านหินและราคาก๊าซธรรมชาติ” ได้ปรับตัวลดลงจากต้นปี 62 อีกทั้งภาวะค่าเงินบาทที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินสกุลเหรียญสหรัฐ
โดยรายได้จากการขายรวมอยู่ที่ 2,759 ล้านเหรียญสหรัฐ (เทียบเท่า 85,718 ล้านบาท) ลดลง 21% จากปีก่อน
ขณะที่กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) ในปี 62 คิดเป็น 695 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 41% จากปีก่อน จากราคาถ่านหินและก๊าซธรรมชาติที่ปรับลดลง EBITDA ประกอบด้วย จากธุรกิจถ่านหิน 482 ล้านเหรียญสหรัฐ (ลดลง46%) EBITDA จากธุรกิจก๊าซธรรมชาติจำนวน 68 ล้านเหรียญสหรัฐ (ลดลง 33%) และ EBITDA จากธุรกิจไฟฟ้าจำนวน 145 ล้านเหรียญสหรัฐ (ลดลง20%)
นอกจากนี้ยังได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาทอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับดอลล่าร์สหรัฐฯ ทำให้เกิดผลขาดทุนจากการแปลงค่างบการเงินจำนวน 95 ล้านเหรียญสหรัฐ งบการเงินรวมจึงได้บันทึกขาดทุนสุทธิจำนวน 20 ล้านเหรียญสหรัฐเทียบกับกำไรสุทธิจำนวน 206 ล้านเหรียญสหรัฐฯในปีก่อนหน้า
อย่างไรก็ดีที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร (บอร์ด)ยังอนุมัติการจ่ายเงินปันผลงวดจำปี 62 อัตรา 0.60 บาท/หุ้น โดยได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลแล้ว 0.35 บาท/หุ้น จึงเหลือปันผลจ่ายอีก 0.25 บาท/หุ้น กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) วันที่ 10 เม.ย. 2563 และกำหนดจ่าย วันที่ 30 เม.ย. 63
ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ เปิดเผยว่า แม้ในระยะสั้นๆ BANPU จะได้รับผลกระทบจากผลงานปี 62 พลิกขาดทุน แต่ฝ่ายวิจัยมองว่า ด้วยปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ประกอบกับมีโปรเจ็กต์ในมือที่จะทำให้ผลงานปี 63 เติบโตโดดเด่น รวมถึงการตั้ง “บ.บ้านปู เน็กซ์ (BANPU NEXT)” เพื่อมุ่งลงทุนพัฒนาธุรกิจพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีพลังงาน โดย BANPU และ BPP จะร่วมถือหุ้นใน BANPU NEXT ในสัดส่วน 50%เท่ากัน โดยคาดในปี 68 จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนต่างๆเป็น 1,623 MW จากปัจจุบันมีเพียง 406.7 MW ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ผลงานเติบโตได้ในอนาคต ดังนั้นแนะนำ “ซื้อ”
www.mitihoon.com
