นางนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผยว่า ในภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัว ดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาล 10 ปี ลดลงมาอยู่ที่ 1.06% ประกอบกับเกิดสถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อทั่วโลกรวมทั้งสิ้น 79,163 ราย เสียชีวิต 2,471 ราย หายแล้ว 23,624 ราย (ข้อมูลวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563) แต่สถานการณ์การระบาดก็ยังดูเหมือนจะทวีความรุนแรงขึ้นทุกวัน ซึ่งปัญหาดังกล่าวได้กลายเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่ออัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจเอเชียไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อเศรษฐกิจซบเซา ดอกเบี้ยขาลง ตลาดมีความผันผวนเปลี่ยนแปลงรวดเร็วคงไม่ส่งผลดีกับบรรดานักลงทุนหรือผู้ที่ต้องการให้เงินออมงอกเงย
ในการนี้ สมาคมประกันชีวิตไทยขอแนะนำผู้เอาประกันภัยทุกคนที่ถือครองกรมธรรม์ออมทรัพย์ที่มีความคุ้มครองและมีผลตอบแทนสูงอย่ายกเลิกกรมธรรม์ เนื่องจากประกันชีวิตรูปแบบสะสมทรัพย์ในอดีตจะให้ผลประโยชน์และเงินคืนตามที่บริษัทประกันสัญญาไว้ในอัตราสูงกว่าดอกเบี้ยปัจจุบัน เรียกว่ากรมธรรม์ในอดีตจะกลายเป็นสมบัติล้ำค่าในอนาคต รวมถึงการมีประกันสุขภาพไว้รับมือกับโรคต่าง ๆ หรือโรคอุบัติใหม่ เช่น ไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ ขอให้ผู้เอาประกันทุกท่านหมั่นตรวจสอบกรมธรรม์ของตนเองว่าถึงกำหนดชำระเบี้ยประกันภัยในงวดต่อไปแล้วหรือยัง เพื่อให้กรมธรรม์ประกันชีวิตนั้นมีผลบังคับอย่างต่อเนื่อง เพราะการปล่อยให้กรมธรรม์ขาดผลบังคับจะทำให้ผู้เอาประกันชีวิตเสียผลประโยชน์ที่จะได้รับเมื่อครบกำหนดสัญญาแล้วยังทำให้เสียโอกาสในเรื่องความคุ้มครองตามที่ได้ตั้งใจไว้
สำหรับผู้ที่มีกรมธรรม์ประกันชีวิตและยังมีผลบังคับอยู่ ณ ปัจจุบันขอให้มั่นใจว่าจะได้รับความคุ้มครองต่อการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในทุกกรณี ตามจำนวนผลประโยชน์ที่กำหนดไว้ในตารางกรมธรรม์ประกันภัยภายใต้เงื่อนไขความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันชีวิตและ/หรือสัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพ ในโอกาสนี้จึงขอย้ำเตือนผู้เอาประกันภัยทุกท่านว่า เมื่อจำเป็นต้องใช้เงิน ก่อนตัดสินใจยกเลิกกรมธรรม์ควรไตร่ตรองและตระหนักให้ดีก่อนว่าตนเองจะเสียสิทธิอะไรไปบ้าง และเพื่อไม่ให้เสียผลประโยชน์และความคุ้มครองตามสัญญา ท่านสามารถเลือกใช้วิธีกู้เงินจากกรมธรรม์ได้
นอกจากนี้แล้ว เพื่อเป็นการป้องกันและสร้างความเชื่อมั่นให้กับพนักงานและผู้มาติดต่อประสานงาน ตลอดจนการเข้ารับบริการอบรมและสอบใบอนุญาตตัวแทนประกันชีวิตกับสมาคมฯ นั้น ทางสมาคมฯ ได้มีมาตรการคัดกรองด้วยเครื่องมือตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย รวมถึงได้ให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพอนามัยด้วยการสวมหน้ากากอนามัย และใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือทุกครั้งสำหรับการดูแลตนเองในเบื้องต้น และหวังว่าคนไทยจะจับมือกันฝ่าวิกฤติ
ไวรัสโควิด-19 และวิกฤตเศรษฐกิจไปได้ด้วยดี นายกสมาคมประกันชีวิตไทย กล่าวเพิ่มเติม
www.mitihoon.com