ARROW ยังแกร่งสร้างผลงานประทับใจ ปันผลเพิ่มอีก 0.40 บาท/หุ้น

284

มิติหุ้น- ARROW กลับมาแรงอีกครั้งสำหรับผลประกอบการปี 2562 ของบริษัทแอร์โรว์ ซินดิเคท จำกัด(มหาชน) (ARROW) พร้อมกับการปันผลงวดครึ่งปี 2562 พร้อมเคาะจ่ายปันผลครึ่งปี 62 ด้วยอัตราหุ้นละ 0.40 บาท หลังจากครึ่งปีแรกปันผลระหว่างการไป หุ้นละ 0.15 บาท ทำให้ทั้งปีจ่ายปันผล 0.55 บาทต่อหุ้น กำหนดจ่ายวันที่ 22 พฤษภาคม 2563 พร้อมปรับปรุงกระบวนการผลิตรองรับงานด้านโครงสร้างพื้นฐานที่คาดว่าจะกลับมาโดดเด่นอีกครั้งในปี 2563 นี้

นายธานินทร์  ตันประวัติ  กรรมการผู้จัดการ  บริษัท แอร์โรว์ ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ARROW  เปิดเผยถึงที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 1/2563  มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลสำหรับงวดครึ่งหลังปี 2562 ให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสดเพิ่มอีกในอัตรา หุ้นละ 0.40 บาท ซึ่งบริษัทได้จ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีแรกไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท รวมจ่ายเงินปันผลงวดปี 2562 ในอัตรา 0.55 บาทต่อหุ้น  โดยกำหนดให้ผู้ถือหุ้นที่จะมีชื่อปรากฏ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 8 พ.ค 63 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 22 พ.ค 63

ทั้งนี้ผลประกอบการสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2562 ของ ARROW มีกำไรสุทธิ 187.35 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 12.91% หรือ 0.73 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้นจากงวดปี 2561 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 144.28 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 29.85% ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 1,450.74 ล้านบาท

จากสภาพถดถอยของเศรษฐกิจของประเทศจากปัจจัยหลายอย่าง รวมทั้งงบประมาณปี 2563 ที่ล่าช้ากว่ากำหนดก็ตาม บริษัทฯยังประเมิณภาพรวมของธุรกิจว่ายังสามารถสร้างผลงานได้แข็งแกร่งเช่นหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งคาดว่าหลังจากงบประมาณภาครัฐได้รับการรับรองและเบิกจ่ายได้อย่างคล่องตัว จะทำให้โครงสร้างพื้นฐานที่ส่งผลดีต่อธุรกิจของบริษัทฯได้รับผลพลอยได้ในช่วงเวลาที่เหมาะสม อีกทั้งบริษัทฯยังได้เตรียมตัวเป็นอย่างดีเพื่อรับมือกับปัญหาด้านราคาวัตถุดิบที่เกิดจากค่าเงินบาทที่อ่อนตัวในช่วงเวลานี้

มาตรการเพื่อการรับมือกับสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว รวมทั้งคาดการณ์ผลกระทบต่อราคาวัตถุดิบที่เกิดจากความอ่อนตัวของค่าเงินบาทเป็นเรื่องที่บริษัทฯให้ความสำคัญ และให้เตรียมตัวรับมือกับเรื่องดังกล่าวได้เป็นอย่างดี เพื่อการรองรับกับ Backlog กว่า 1,200 ล้านบาท ซึ่งเติบโตมากขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน

“ผลประกอบการของบริษัทฯกลับมาโดดเด่นอีกครั้ง ถึงแม้ว่าจะอยู่ในสภาวะแข่งขันที่สูงขึ้น อย่างไรก็ดีบริษัทมีการเตรียมรับมือกับสถานการณ์ต่างๆในปัจจุบันที่มีผลกระทบต่อธุรกิจก่อสร้างเป็นอย่างดี รวมทั้งคาดว่าปีนี้ทางภาครัฐมีการเร่งผลักดันงานโครงสร้างพื้นฐานออกมาเป็นจำนวนมาก รวมทั้งการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ภาคเอกชน จะเป็นส่วนช่วยชดเชยภาพรวมของธุรกิจก่อสร้างที่อยู่ในสภาวะชะลอตัวได้เป็นอย่างดีทำให้คาดว่าบริษัทฯ ยังคงแข็งแกร่งในเรื่องผลประกอบการอย่างแน่นอน” นายธานินทร์กล่าว

www.mitihoon.com