ช็อก!สหรัฐหั่นดอกเบี้ยฉุกเฉิน 0.50%

82

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า ความเคลื่อนไหว “ดัชนีดาวโจนส์” ตลาดหุ้นนิวยอร์ค ปิดตลาดวันที่ 3 ก.พ. 63ที่ระดับ 25,917.41 จุด ลดลง 785.91 จุด หรือ -2.94%  , ดัชนี NASDAQ ปิดที่ระดับ 8,684.09 จุด ลดลง 268.08 จุด หรือ -2.99% และ ดัชนี S&P ปิดที่ระดับ 3,003.37 จุด ลดลง 86.86 จุด หรือ -2.81%

โดย “นักวิเคราะห์หลักทรัพย์” เปิดเผยว่า การปรับตัวลดลงของ “ดัชนีดาวโจนส์” ภายหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดดอกเบี้ยฉุกเฉิน 0.50% กด Fed Fund Rate ลงสู่ 1.25% ซึ่งเป็นการประกาศนอกเวลาการประชุมตามปกติ สร้างความตระหนกให้แก่นักลงทุน ทำให้นักลงทุน  “เทขายหุ้น” จน “ดัชนีดาวโจนส์” ปิดลดลงสู่ระดับ 785.91 จุด  ซึ่งการลดดอกเบี้ยนี้สะท้อนไปยังตลาดพันธบัตรก่อนหน้านี้ที่นักลงทุนหันเข้าทุ่มซื้อจน Bond Yield ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์  ล่าสุด Bond5 yrs ให้ผลตอบแทนเพียง 0.72%    ส่วนทองคำพุ่ง 44.9 เหรียญ

ด้าน  “บล.เอเซียพลัส” เปิดเผยว่า การที่เฟดประกาศลดดอกเบี้ยอย่างฉับพลันเพื่อช่วยเยียวยาผลกระทบเศรษฐกิจจากปัญหา COVID-19 ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลก คาดหวังว่าธนาคารกลางทั่วโลก จะมีการปรับลดดอกเบี้ยตามมา รวมถึงทาง กนง. น่าจะต้านทานแรงกดดันได้ยาก ทำให้มีโอกาสสูงที่จะปรับลดดอกเบี้ย ในวันที่ 25 มี.ค.63 นี้

ทั้งนี้ตามกลไกปกติ การลดดอกเบี้ยถือว่าส่งผลดีต่อตลาดหุ้นในระยะสั้น เพราะนักลงทุนมักจะชั่งน้ำหนักผลตอบแทนกับความเสี่ยงเสมอ คือ หากดอกเบี้ยอยู่ในภาวะขาลงจะส่งผลให้ผลตอบแทนสินทรัพย์ปลอดภัย อย่าง ตลาดตราสารหนี้ลดน้อยลงตามไปด้วย ทำให้มีแรงจูงใจที่จะเพิ่มความเสี่ยงเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นมากขึ้น โดยเฉพาะยามที่ตลาดปรับฐานลงมาแล้วในระดับหนึ่งแล้ว

พร้อมกันนี้หากพิจารณาจาก Sensitivity ของการลดดอกเบี้ยในระดับต่างๆ จากการคำนวณ Market Earning Yield Cap พบว่า ดอกเบี้ยที่ลดลงทุกๆ 0.25% จะส่งผลตลาดหุ้นซื้อขายบน P/E ที่สูงขึ้น 0.75 เท่า หนุนให้เป้าหมาย SET ปี 2563 มีโอกาสขยับขึ้นถึง 64 จุด

สรุป คือ หาก กนง. ลดดอกเบี้ยนโยบายลงทุก 25 bps. จะหนุนให้ Upside ของดัชนีเปิดกว้างขึ้นราว 64 จุด อย่างไรก็ตามการลดดอกเบี้ยเป็นเพียงกลไกที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นเท่านั้น ซึ่งนักลงทุนยังต้องติดตามปัญหา COVID-19 อย่างใกล้ชิด เพราะถ้าหากยืดเยื้อ จะกระทบต่อธุรกิจโดยตรง ทั้งในมุมของการผลิต และการบริโภค ส่งผลและกดดันดัชนีหุ้นในระยะถัดไป

www.mitihoon.com