SKE กวาดรายได้ปีนี้โต 30% ปักธงลุยพลังงานเต็มแม็กซ์ (05/03/63)

192

มิติหุ้น – SKE เร่งศึกษาลงทุนโรงไฟฟ้าชุมชน-โซลาร์รูฟท็อป หวังอัพกำลังผลิตไฟฟ้าเพิ่มอีก 11 เมกะวัตต์ ดันเป้ารายได้ทั้งปี 63 โต 30% ฟากโบรกฯ ชี้ผลงานยังเย้ายวนใจ คาดกำไรทำนิวไฮ คงคำแนะนำ “ซื้อ”

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น”รายงานว่า บมจ.สากล เอนเนอยี หรือ SKE ประกอบธุรกิจสถานีก๊าซธรรมชาติหลักเอกชน โดย “นักวิเคราะห์บล.คันทรี่ กรุ๊ป” เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทปี 63 มีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้น จากการรับรู้รายได้ ธุรกิจโรงไฟฟ้าแม่กระทิงที่ได้ COD ไปแล้ว ซึ่งจะช่วยให้รายได้เติบโตขึ้นเท่าตัวจากปี 62 ประกอบกับธุรกิจ CBG ที่ปริมาณขายจะเพิ่มขึ้นและสม่่าเสมอจากการได้ลูกค้าจากโรงงานอุตสาหกรรมมาเพิ่ม และธุรกิจ NGV ที่คาดว่ารายได้ผ่านจุดต่่าสุดไปแล้ว นอกจากนี้บริษัทยังมีช่องทางในการลดต้นทุนวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าซึ่งจะช่วยเพิ่มอัตราก่าไรขั้นต้นจากการขายไฟฟ้าให้บริษัท

เคาะกำไรปี 63 ทำนิวไฮ

ขณะที่ “แหล่งข่าวนักวิเคราะห์หลักทรัพย์”  ประเมินธุรกิจ SKE ในปี 63 จะเริ่มรับรู้รายได้จากขายไฟแม่กระทิง เข้ามาเต็มปี คาดรับรู้กำไรราว 70 ล้านบาท ไม่นับรวมธุรกิจก๊าซที่ยังเติบโตเด่น รวมทั้งธุรกิจ CBG ที่ผลงานจะเริ่มพลิกมีกำไร รวมทั้งบริษัทยังมีแผนรุกโรงไฟฟ้าชีวมวลเพิ่มให้ครบอีก 20 MW ตามแผนภายใน 2 ปี คาดกำไรปี 63 เติบโตนิวไฮ ดังนั้น แนะนำ “ซื้อ”

ลุยลงทุน-อัพรายได้โต 30%

ด้าน “นายจักรพงส์ สุเมธโชติเมธา”  กรรมการผู้จัดการ เผยว่า ในปี 63 บริษัทมีแผนเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าอีกประมาณ 11 MW เพื่อให้ครบตามเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าเป็น 30 MW ภายในปี 65 โดยสนใจลงทุนและอยู่ระหว่างศึกษาโรงไฟฟ้าชุมชน และโรงไฟฟ้าประเภทโซลาร์รูฟท็อป ซึ่งคาดหวังอัตราการรับซื้อไฟในระดับใกล้เคียงกับโรงไฟฟ้าชีวมวลแม่กระทิง ที่อัตรารับซื้อไฟเฉลี่ย 4.56 บาท/หน่วย

ขณะเดียวกันบริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 63 เติบโต 30% จากปีก่อน เป็นผลมาจากการจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ (COD) โรงไฟฟ้าแม่กระทิง ขนาดกำลังผลิต 9.9  MW และมีสัญญาขายไฟอยู่ที่ 8 MW ที่จะรับรู้รายได้เข้ามาเต็มปี ประกอบกับธุรกิจสถานีก๊าซธรรมชาติหลักเอกชน (PMS) ที่ให้บริการอัดก๊าซธรรมชาติ NGV คาดยังมีปริมาณความต้องการอยู่ที่ 500 ตัน/วัน ส่วนธุรกิจผลิตก๊าซไบโอมีเทนอัด (CBG) คาดว่าจะพลิกมีกำไรได้

สำหรับสัดส่วนรายได้ในปี 63 คาดจะมาจากธุรกิจโรงไฟฟ้า 49%, ธุรกิจ NGV 45% และธุรกิจ CBG 6% จากปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้ธุรกิจ NGV อยู่ที่ 84% ธุรกิจโรงไฟฟ้า 14% และธุรกิจ CBG 2%

www.mitihoon.com